ปัตตานี - คนร้ายกระจายกำลังเผาตู้โทรศัพท์ใน อ.เมืองปัตตานี รวม 4 จุด แต่เจ้าหน้าที่สามารถคุมเพลิงไว้ได้ คาดเป็นการก่อเหตุตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังมีการจับกุมกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่จำนวนหลายคน
เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์สาธารณะบริเวณหน้ามัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ต.จะบังติกอ จึงประสานรถดับเพลิงเข้าดับไฟ เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้ตู้โทรศัพท์อยู่ เจ้าหน้าดับเพลิงจึงรีบช่วยกันดับไฟทันที่ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็สามารถควบคุมไฟไว้ได้
จากการตรวจสอบพบว่า ตู้โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นตู้โทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ได้รับความเสียหายจำนวน 2 ตู้ นอกจากนี้ ยังพบเศษผ้าเปื้อนคราบน้ำมันจำนวน 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
และจากการสอบสวนทราบว่า ในเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาของการละหมาดช่วงค่ำ ทำให้มีประชาชนเดินทางเข้ามัสยิดกลางเพื่อละหมาดจำนวนมาก ขณะเดียวกัน คนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ทำทีเข้ามาใช้ตู้โทรศัพท์ ก่อนจะนำมาผ้าที่เตรียมไว้ราดน้ำมัน และจุดไฟเผาทันที จากนั้นรีบขึ้นรถหลบหนีไป และในเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้กระจายกำลังลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์อีก 2 จุด คือ หน้าโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยา ต.บาราโหม อ.เมือง ทำให้ตู้โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย 2 ตู้ และหน้าโรงเรียนพัฒนาอิสลาม ต.บาราเฮาะ อ.เมือง ได้รับความเสียหายจำนวน 1 ตู้ รวมทั้งหมด 5 ตู้
นอกจากนี้ คนร้ายยังได้นำกรวยจราจรไปวางไว้บนตู้โทรศัพท์ บริเวณหน้าวิทยาลัยอาชีวะศึกษาปัตตานี ทำให้นักศึกษาและประชาชนแตกตื่น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้เข้าทำการตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบสิ่งต้องสงสัยแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นสาเหตุ คาดว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ หลังจากเจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมกับกองพันทหารพราน 41 เข้าปิดล้อมหมู่บ้านเป้าหมาย บริเวณ ม.8 บ้านเจ๊ะดี ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จนสามารถควบคุมตัวแนวร่วมอาร์เคเคซึ่งทำหน้าที่ปลูกระดมจำนวน 4 ราย พร้อมอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. และขนาด .357 จำนวน 2 กระบอก ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้อาศัยกฎอัยการศึกควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวไว้ที่ค่ายทหารพราน 31 พญาลิไท จ.ยะลา เพื่อนำตัวไปซักถามและขยายผลต่อไป เนื่องจากยังไม่พบมีหมายจับในฐานข้อมูลประวัติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการควบคุมตัวบุคคลทั้ง 4 รายได้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการสั่งกำชับกำลังพลในพื้นที่ให้ตรึงกำลังเป็นกรณีพิเศษ เพราะคนร้ายอาจลอบทำลายชีวิต และทรัพย์สินเพื่อเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเกิดเหตุเผาตู้โทรศัพท์ดังกล่าว
