สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ นำตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งค้ายาเสพติดที่ปะทะตำรวจพร้อมของเป็นอาวุธปืน M16 อาวุธปืนสั้น เครื่องกระสุนปืน ยาไอซ์เกือบ 1 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท แถลงข่าวหลังผู้ต้องทั้งหมดหนีไม่รอด เผยเป็นเครือข่ายค้ายานักโทษเรือนจำนครฯ และธัญบุรี
จากกรณี 2 คนร้ายเหิม ใช้อาวุธปืนสงคราม M 16 และปืนสั้น ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดสุราษฎร์ฯ ขณะล่อซื้อยาเสพติด จึงเกิดปะทะกับกันขึ้น 2 คนร้ายได้ขับรถหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ยิงรถยางแตกเสียหลักตกข้างทาง บริเวณ กม.42 ม.8 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และอาศัยความมืดหลบหนีเข้าสวนยางพาราของชาวบ้าน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิฑูรย์ ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำตัว นายไพฑูรย์ ขวัญแก้ว อายุ 27 ปี หรือบังป่าพยอม และ นายกิตติชัย หนูคลิ้ง อายุ 22 ปี นายอิสรพงศ์ สงมาก อาย 17 ปี ทั้งหมดเป็นคนอำเภอป่าพยอม จ.พัทลุง พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน M 16 อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.เครื่องกระสุนปืนกว่า 50 นัด ยาไอซ์ 9 ขีด มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ก่อนการปะทะ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายกิตติชัย หนูคลิ้ง พ่อค้ายาเสพติดได้ที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้น ได้ขยายผลเข้าจับกุมนายไพทูรย์ ขวัญแก้ว และนายอิสรพงศ์ สงมาก จนเกิดการยิงปะทะกัน
นายอิสรพงศ์ รับว่า ได้ใช้ระเบิดมือชนิดลูกเกลี้ยงขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงระหว่างฟาร์มเลี้ยงไก่ของ บริษัท ซีพี กับจุดเกิดเหตุ แต่ระเบิดไม่ทำงาน ในขณะที่นายไพฑูรย์ ให้การว่านายวิชัย ขวัญแก้ว ไม่ได้เดินทางด้วย ดังนั้น นายวิชัยไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่เข้าใจว่าคนร้ายทั้งสองคนคือนายไพทูรย์ และนายวิชัย แต่จริงๆ แล้วนายวิชัย ไม่ได้เดินทางมากับรถคันดังกล่าว
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดของนักโทษอดุล สงมาก ที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำธัญบุรี และนักโทษถาวร โกละกะ ที่ถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเตือนประชาชนหากพบเห็นลูกระเบิดสังหารชนิดดังกล่าวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่านำไปเล่น มีอันตรายสูง เนื่องจากลูกระเบิดถูกดึงสลักออกแล้ว
