ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในฤดูมรมรสุมที่จะถึงนี้
วานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมหัวหน้า ส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคล่นถล่มจังหวัดสงขลา ประจำปี 2555 เพื่อให้การช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์ ตลอดจนสามารถฟื้นฟูบูรณะสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการแก้ไข และป้องกันการเกิดอุทกภัยล่วงหน้า ซึ่งขณะนี้จะย่างเข้าเดือนกรกฎาคม ถึงแม้ว่าจังหวัดสงขลา รวมถึงจังหวัดภาคใต้จะไม่ใช่ฤดูฝน ฤดูฝนจะเริ่มจริงๆ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงปลายเดือนกันยายน ถึงแม้ว่าช่วงนี้จังหวัดสงขลาจะอยู่ในช่วงฤดูแล้ง แต่จังหวัดสงขลาได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาลองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ ร่วมมือกับนายอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานชลประทานจังหวัดสงขลา สำรวจคูน้ำ แอ่งน้ำทั้ง 16 สายน้ำของจังหวัดสงขลา ว่าจุดไหนบ้างที่ตื้นเขิน มีสิ่งกีดขวางทางน้ำให้ดำเนินการขุดลอกคูคลองเพื่อให้ระบบระบายน้ำทางธรรมชาติให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และทำงานได้อย่างปกติ
ข้อสั่งการข้อที่สองในการประชุมวันนี้ การเตรียมการให้ความช่วยเหลือโดยตรวจสอบเครื่องไม้เครื่องมือของหน่วยงานทหาร ตำรวจ ชลประทาน ปภ.เขต 12 ว่ามีเครื่องมืออะไรบ้าง โดยการทำทำเนียบอุปกรณ์ขึ้นมาเพื่อการตรวจสอบ ข้อสั่งการข้อที่สามคือ ให้ดูย้อน 3 ปี ว่าพื้นที่ไหนที่จังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และดูว่าพื้นที่นั้นได้รับการแก้ไขหรือยัง และข้อสั่งการประการสุดท้าย ด้านการรับบริจาคสิ่งของได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพหลักในการรับบริจาคสิ่งของ
และด้านการประชาสัมพันธ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพหลักในการประสานงานกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา รวมทั้งเครือข่ายวิทยุชุมชน เมื่อเกิดภัยพิบัติให้รวมเป็นสถานีเฉพาะกิจเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และรวดเร็ว