นครศรีธรรมราช - ไฟป่าพรุควนเคร็งยังลุกลามต่อเนื่อง ล่าสุด โหมไหม้พื้นที่เกษตรก่อนเข้าโอบล้อมศูนย์ราชการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ระดมรถดับเพลิงเข้าคุมเพลิงจ้าละหวั่น
เหตุการณ์ไฟลุกลามพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่รอบศูนย์ราชการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (26 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากพื้นที่รอบนอกของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับวิทยุขอความช่วยเหลือให้ระดมรถดับเพลิงเข้าทำการสนับสนุนควบคุมเพลิงที่กำลังโหมไหม้ป่าละเมาะที่อยู่รอบศูนย์ราชการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยในพื้นที่อยู่ในสภาพปกคลุมไปด้วยหมอกควันที่เกิดจากเพลิงที่กำลังโหมไหม้ป่าละเมาะ และทุ่งนาเป็นบริเวณกว้าง จนมาประชิดแนวบ้านพักนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และข้าราชการประจำอำเภอ รวมทั้งบ้านพักข้าราชการตำรวจที่อยู่บริเวณเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระดมรถนำเข้าควบคุมด้วยความยากลำบาก
นายนพ บุญล้อม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ที่มาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเองบอกว่า เริ่มเห็นแนวไฟตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ช่วงดึกได้หยุดลงไปกระทั่งช่วงเที่ยงอากาศร้อน และลมแรงจัด ทำให้ไฟปะทุขึ้นมากลายเป็นเปลว และลุกลามเข้าพื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งนา ป่าละเมาะที่อยู่รอบศูนย์ราชการ จนล้อมศูนย์ราชการทั้งหมด แต่โชคดีที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ต้นเพลิงเกิดมาจากพื้นที่เกษตรกรรมใกล้กับแนวป่าพรุก่อนที่จะลุกลามข้ามคืนจนเข้ามาโอบล้อมที่ว่าการอำเภอ และศูนย์ราชการ คงมีเพียงแค่หมอกควันเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อการหายใจของประชาชน และไม่มีรายงานของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
เหตุการณ์ไฟลุกลามพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่รอบศูนย์ราชการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (26 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากพื้นที่รอบนอกของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับวิทยุขอความช่วยเหลือให้ระดมรถดับเพลิงเข้าทำการสนับสนุนควบคุมเพลิงที่กำลังโหมไหม้ป่าละเมาะที่อยู่รอบศูนย์ราชการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยในพื้นที่อยู่ในสภาพปกคลุมไปด้วยหมอกควันที่เกิดจากเพลิงที่กำลังโหมไหม้ป่าละเมาะ และทุ่งนาเป็นบริเวณกว้าง จนมาประชิดแนวบ้านพักนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และข้าราชการประจำอำเภอ รวมทั้งบ้านพักข้าราชการตำรวจที่อยู่บริเวณเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระดมรถนำเข้าควบคุมด้วยความยากลำบาก
นายนพ บุญล้อม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ที่มาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเองบอกว่า เริ่มเห็นแนวไฟตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ช่วงดึกได้หยุดลงไปกระทั่งช่วงเที่ยงอากาศร้อน และลมแรงจัด ทำให้ไฟปะทุขึ้นมากลายเป็นเปลว และลุกลามเข้าพื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งนา ป่าละเมาะที่อยู่รอบศูนย์ราชการ จนล้อมศูนย์ราชการทั้งหมด แต่โชคดีที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ต้นเพลิงเกิดมาจากพื้นที่เกษตรกรรมใกล้กับแนวป่าพรุก่อนที่จะลุกลามข้ามคืนจนเข้ามาโอบล้อมที่ว่าการอำเภอ และศูนย์ราชการ คงมีเพียงแค่หมอกควันเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อการหายใจของประชาชน และไม่มีรายงานของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
