สุราษฎร์ธานี - เหตุระเบิดกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ล่าสุด ผู้การสุราษฎร์ฯ ระบุ เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีการเชื่อมโยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามข่าวลือ แต่เป็นเหตุผู้ต้องขังคดียาเสพติดในเรือนจำ เป็นผู้สั่งการออกมาให้บุคคลภายนอกกระทำ เพื่อหวังกดดันเจ้าหน้าที่ หรือหวังหลบหนีออกจากเรือนจำ
วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.วิฑูร ธรรมรักษา ผบก.ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก.สภ.เมือง และ นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณข้างกำแพงเรือนจำอีกครั้ง เพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ให้ช่างปูนมาดำเนินการซ่อมแซมจุดที่กำแพงเสียหายแล้ว และยังพบว่า การติดตั้งทีวีวงจรปิดของบริษัทผู้รับเหมา ปรากฏว่า มีติดตั้งอยู่ในจุดเดียวกันทั้ง 2 ตัว
จากนั้นได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อเร่งคลีคลายคดีที่ ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ผู้บังคับการสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีการเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เป็นการสั่งการให้ก่อเหตุจากผู้ต้องขังคดียาเสพติดภายในเรือนจำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจค้นและยึดโทรศัพท์มือถือและยาเสพติด จึงทำให้กลุ่มผู้ต้องขังในคดีดังกล่าวเกิดความไม่พอในเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตรวจยึดโทรศัพท์มาได้จำนวน 16 เครื่องพร้อมยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และในวันนี้ยังสามารถตรวจยึดได้เพิ่มอีก 1 เครื่อง
วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.วิฑูร ธรรมรักษา ผบก.ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก.สภ.เมือง และ นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณข้างกำแพงเรือนจำอีกครั้ง เพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ให้ช่างปูนมาดำเนินการซ่อมแซมจุดที่กำแพงเสียหายแล้ว และยังพบว่า การติดตั้งทีวีวงจรปิดของบริษัทผู้รับเหมา ปรากฏว่า มีติดตั้งอยู่ในจุดเดียวกันทั้ง 2 ตัว
จากนั้นได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อเร่งคลีคลายคดีที่ ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ผู้บังคับการสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีการเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เป็นการสั่งการให้ก่อเหตุจากผู้ต้องขังคดียาเสพติดภายในเรือนจำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจค้นและยึดโทรศัพท์มือถือและยาเสพติด จึงทำให้กลุ่มผู้ต้องขังในคดีดังกล่าวเกิดความไม่พอในเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตรวจยึดโทรศัพท์มาได้จำนวน 16 เครื่องพร้อมยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และในวันนี้ยังสามารถตรวจยึดได้เพิ่มอีก 1 เครื่อง