ยะลา - หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตราปกคลุม อ.เบตง จ.ยะลา อย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่เริ่มรู้สึกระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ และทัศนวิสัยในการขับขี่ค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะถนนสายคอกช้าง-เบตง เส้นทางเข้าออก อ.เบตง ซึ่งเป็นภูเขาสูงชัน และคดเคี้ยว
วันนี้ (19 มิ.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยกระแสลมได้พัดพาเอากลุ่มควันไฟป่าจากเกาะสุมาตราข้ามช่องแคบมะละกามายังประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งได้รับผลกระทบในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงเช้า หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตราเริ่มเข้าปกคลุมท้องฟ้าจนฟ้าหลัว และมีหมอกควันสีขาวไปทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันนี้ สภาพหมอกควันหนามากเป็นพิเศษ เนื่องจากในตัวเมืองเบตงเป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาล้อมรอบ หมอกควันได้รวมตัวกันอย่างหนาแน่น ทั้งภูเขา และตึกสูงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน และยังส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ยานพาหนะเป็นอย่างมาก เนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน โดยเฉพาะถนนสายคอกช้าง-เบตง (สายเก่า) ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออก อำเภอเบตง ที่เป็นภูเขาสูงชัน และคดเคี้ยว
นอกจากนี้ หมอกควันยังปกคลุมป่าเขา ตลอดจนบ้านเรือนประชาชนตามชุมชนต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 และแนวโน้มยังคงมีหมอกควันหนาแน่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนรู้สึกถึงกลิ่นควัน และหลายคนเริ่มมีอาการจามจากการรับเอาหมอกควันเข้าทางการหายใจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ตลอดจนรู้สึกระคายเคือง และแสบตาแล้ว ซึ่งหากสถานการณ์ไฟป่าที่เกาะสุมาตรายังคงรุนแรง คาดว่าใน 2-3 วันจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการวางแผนทำกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดควัน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การเผาใบไม้ เผาหญ้า โดยการเผาควรทำในขณะที่มีปริมาณใบไม้หรือหญ้าน้อย และควรทยอยเผา อย่าเผาพร้อมกัน ซึ่งลักษณะนี้ จะทำให้เกิดหมอกควันไม่มาก ที่สำคัญ ควรเผาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น เผาก่อนฝนตก และไม่ควรเผาในช่วงที่ความกดอากาศสูง เพราะจะทำให้ควันไม่สามารถลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ ดังนั้น ควรต้องมีการติดตามประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนในการเผาเพื่อลดหมอกควันในขณะนี้