ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวสวนผลไม้เกาะยอ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่แหล่งรวมผลไม้นานาชนิดรสชาติดีของ จ.สงขลา ต้องเฝ้าระวัง และดูแลกระท้อนห่อสองสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด ต้องใช้ถุงพลาสติกห่อผลกระท้อนป้องกันแมลงวันทองเจาะไชแทนการใช้สารเคมี ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ กระท้อนห่อจะสุกพร้อมกันทั้งเกาะยอ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ชาวสวน
ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นแหล่งปลูกผลไม้นานาชนิดที่มีรสชาติดี เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง ทำให้ ต.เกาะยอมีสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชผลนานาชนิด ทำให้มีผลไม้ออกมาตลอดทั้งปี มีทั้งเงาะ ทุเรียน ลางสาด มังคุด ขนุน กระท้อน และจำปาดะ
สำหรับในช่วงนี้ เป็นฤดูที่กระท้อนห่อกำลังให้ผลผลิตออกมาเต็มที่ และมีเกือบทุกบ้าน และทุกสวนที่ปลูกต้นกระท้อนเอาไว้ อย่างเช่น นายวีระชัย สนิทมัจโร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 7 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ได้ปลูกกระท้อนห่อไว้ในบริเวณบ้าน และสวนหลังบ้านสองสายพันธุ์ คือ พันธุ์ปุยฝ้าย และพันธุ์อีล่า กว่า 20 ต้น ซึ่งกระท้อนห่อทั้งสองสายพันธุ์กำลังมีผลผลิตออกมาเต็มต้นทุกต้น จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และดูแลผลกระท้อนห่ออย่างใกล้ชิด โดยนำถุงพลาสติกมาห่อผลกระท้อนทุกผล เพื่อป้องกันแมลงวันทองมาเจาะไช ทำให้ผลกระท้อนเน่าเสียได้
ซึ่งวิธีห่อผลกระท้อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้แมลงวันทองไม่สามารถเข้ามาเกาะผลและเจาะไชได้โดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี เพียงแต่คอยดูแลให้น้ำเสริมเวลาสภาพอากาศร้อน และเสริมปุ๋ยขี้ไก่ที่ลำต้นเท่านั้น สำหรับกระท้อนห่อที่เกาะยอจะเริ่มออกผลในช่วงเดือนเมษายน และจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ของทุกปี และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ชาวสวนผลไม้เกาะยอ
สำหรับกระท้อนห่อที่ชาว ต.เกาะยอ นิยมปลูก และเหมาะกับสภาพพื้นที่มีสองสายพันธุ์คือพันธุ์ปุยฝ้ายซึ่งมีรสหวาน มีเปลือกที่นิ่มเหมือนกำมะหยี่ และเม็ดกระท้อนมีปุย ส่วนพันธุ์อีล่า หรือปุยฝ้ายเกษตร เป็นกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้ายเหมือนกัน ผลกระท้อนจะมีขนาดใหญ่มาก บางผลน้ำหนักถึง 0.9 กิโลกรัม และรสชาติจะหวานมีปุยเหมือนปุยฝ้าย แต่จะสุกช้ากว่ากระท้อนทุกพันธุ์