ยะลา - ชลประทานยะลา จัดกิจกรรมวันสถาปนาชลประทานครบรอบ 110 ปี ดึงประชาชนร่วมปลูกหญ้าแฝก และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อร่วมกันรักษาแหล่งน้ำซึ่งเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ในขณะที่ ผวจ.ยะลา ระบุ สั่งการทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมแล้ว
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่บริเวณประตูระบายน้ำบ้านบราแง (บ้านทุ่งเหรียง) ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา เป็นประธานเปิดโครงการวันสถาปนากรมชลประทานครบรอบ 110 ปี โดยมีนายฉลอง เกียรติศักดิ์โสภณ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยะลา หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา นักเรียน และประชาชนเข้าร่วมในพิธี
นายฉลอง เกียรติศักดิ์โสภณ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยะลา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ โครงการชลประทานยะลาร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลยุโปจัดขึ้น เนื่องในโอกาสที่กรมชลประทานได้ก่อตั้งครบรอบ 110 ปี ในวันที่ 13 มิ.ย.2555
โดยกิจกรรมวันนี้ มีทั้งการปลูกต้นไม้ จำนวน 220 ต้น ปลูกหญ้าแฝก จำนวน 11,000 กล้า และปล่อยพันธุ์ปลากินพืช จำนวน 400,000 ตัว ทั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งอาหารสำหรับชุมชนในพื้นที่ ต.ยุโป และตำบลใกล้เคียง ได้มีอาหารไว้บริโภค รวมทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรใน จ.ยะลา ซึ่งได้พระราชทานแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และยังเป็นการสร้างความตระหนักให้ราษฎรในพื้นที่ได้ช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยกันดูแล และบำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากที่ทางชลประทานได้สร้างประตูระบายน้ำแห่งนี้ ทำให้ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี จากเดิมเมื่อถึงช่วงที่น้ำท่วม บางจุดท่วมถึง 2 เมตร แต่ปัจจุบัน ช่วยบรรเทาทำให้น้ำที่เคยท่วมสูงดังกล่าวเหลือเพียง 50-70 ซม. เท่านั้นในช่วงปีที่ผ่านมา
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า ทางจังหวัดยะลาได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีความรู้เกี่ยวกับระบบชลประทาน โดยอาศัยแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยต่างๆ เกือบทุกพื้นที่ รวมทั้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลาก็เช่นกัน
ทั้งนี้ พื้นที่ที่เคยประสบอุกทกภัย โดยเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นส่วนที่มีปัญหากับเขตเทศบาลนครยะลานั้น ทางจังหวัดได้สร้างคันดินระบายน้ำ ซึ่งสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนทิศเหนือ หรือฝั่งซ้ายของแม่น้ำปัตตานี โดยเฉพาะเขต อ.เมือง ต.ยุโป ต.พร่อน อ.ยะหา และอีกหลายตำบล ที่เกิดปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก ได้เปิดทางคูระบายน้ำ และคลองย่อยต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้น ทางจังหวัดได้มีแผนอื่นๆ และขอรับการสนับสนุนจากหน่วยเหนือ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะต้องรอการอนุมัติ เมื่ออนุมัติมาแล้วก็จะดำเนินการจัดทำแก้มลิงในพื้นที่ที่มีปัญหา โดยเฉพาะที่ ต.พร่อน ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลในปีนี้ จะทำให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ยังคงเหลืออยู่ในเขตจังหวัดยะลาลดลง พร้อมกันนี้ ก็มีการเตรียมความพร้อมของประชาชน และจะมีการฝึกนักกู้ภัยทางเรือเพิ่มขึ้นอีกด้วย