ตรัง - สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.ตรัง เริ่มคลี่คลาย แต่ยังมี อ.เมืองในอีก 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน ที่น้ำยังท่วมขังสูง 1 เมตร โดยเฉพาะ ต.นาท่ามใต้ เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน 5 ครอบครัวยังนอนเต็นท์ข้างถนน
จากกรณีที่ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตรัง ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่สวนยางพารา พื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของราษฎรใน 4 อำเภอ คือ อ.เมืองตรัง อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว และ อ.วังวิเศษ รวม 27 ตำบล 88 หมู่บ้าน ซึ่งได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างนั้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ฝนได้หยุดตกตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ผ่านมา ส่งผลให้ 3 อำเภอ ระดับน้ำเริ่มคลี่คลายลงแล้ว ซึ่งยังเหลือ อ.เมืองตรัง 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน ที่ระดับน้ำยังคงท่วมขังและทรงตัวอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.นาตาล่วง ต.บางรัก และ ต.นาท่ามใต้ ซึ่งสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะระดับน้ำบางจุดที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มยังสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านจึงยังจำเป็นต้องใช้เรือพายเป็นยานพาหนะ ในการเดินทางเข้าออกระหว่างบ้านกับพื้นที่ภายนอก
ส่วนสาเหตุที่น้ำยังคงท่วมขังในพื้นที่อีกนั้น เนื่องจากในช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุน ประกอบกับพื้นที่ ต.ควนธานี อ.กันตัง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ระดับน้ำยังคงทรงตัว ส่งผลให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า ทั้งนี้ คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม ภาวะน้ำท่วมขังก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วันนี้ ซึ่งขณะนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง กำลังอยู่ในระหว่างสำรวจความเสียหาย
ขณะที่ชาวบ้านใน ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ทั้ง 5 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ติดริมถนนสายตรัง-สิเกา ยังคงพักอาศัยอยู่ในเต็นท์ที่ทาง อบต.บางรัก จัดหามาให้เป็นวันที่ 2 แล้ว เพราะระดับน้ำที่ท่วมสูงถึง 2 เมตร ทำให้ยังไม่สามารถขนของกลับเข้าบ้านได้ จึงต้องรอน้ำลดก่อน ถึงจะเข้าไปทำความสะอาดได้
โดยชาวบ้านระบุว่า จุดที่พวกตนอยู่อาศัยเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีทั้งถนนที่ยกระดับขึ้นสูง คลอง และโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยตรัง ล้อมรอบ เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ก็จะทำให้มีน้ำท่วมขังสูงถึง 3 เมตร ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ อยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำท่อระบายน้ำแบบเปิด-ปิด แม้จะช่วยได้ไม่มาก แต่ก็ทำให้น้ำส่วนหนึ่งไม่ไหลเข้าท่วมพื้นที่สูงนัก
