นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านสุดทน แจ้งตำรวจจับสองผัวเมียอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสุดแสบ นำรถฉุกเฉินเปิดท้ายขายกระท่อมพร้อมส่วนผสม สี่คูณร้อย สารภาพหมดเปลือก ส่งขายให้คนงานรับจ้าง และกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุรกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบอาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิแห่งหนึ่งออกตระเวนขายใบกระท่อมพร้อมด้วยส่วนผสมสูตรสี่คูณร้อย โดยใช้รถยนต์ฉุกเฉินติดสัญญาณไฟไซเรนเป็นรถที่บรรทุกมาจำหน่าย บริเวณถนนสายเอเชีย 41 หมู่ 8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา หลังจากนั้น จึงเข้าทำการตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ติดตราสัญลักษณ์มูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง ติดสัญญาณไฟฉุกเฉินครบชุด เปิดวิทยุสื่อสารในข่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจดังลั่น และมีชายสวมเครื่องแบบของมูลนิธิดังกล่าวกำลังจำหน่ายใบกระท่อมบรรจุถุงเป็นชุดๆ ให้แก่คนงานก่อสร้างในย่านนั้น จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นในตอนบรรทุกช่วงท้าย พบพืชใบกระท่อมจำนวนรวมกันได้ 200 พับ และบรรจุใส่อยู่ในถุงพลาสติกใสอีกกว่า 10 ถุง
นอกจากนี้ ยังพบยาแก้ไอ 16 ขวด นำอัดลมขนาด 1.7 ลิตร จำนวน 12 ขวด ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง 24 ขวด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจค้นในตัว พบอาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน ภายในรังเพลิงบรรจุกระสุนอยู่ 6 นัด และวิทยุสื่อสารซึ่งเปิดใช้ช่องรับ-ส่งสัญญาณของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน
ทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ บุญถนอม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 5 บ้านนาพา ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ในชุดของมูลนิธิ นางสำราญ สวัสดี อายุ 44 ปี ภรรยาของนายสมศักดิ์ ที่รับหน้าที่จัดแบ่งบรรจุใบกระท่อมส่งจำหน่าย
นายสมศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับพืชใบกระท่อมมาจากชายไม่ทรายชื่อชาวพม่า จะนำมาส่งให้ครั้งละ 2 กระสอบ ในราคากระสอบละ 1,000 บาท จากนั้นตนก็จะเอามาแยกแบ่งทำเป็นพับ พับละ 10 ใบ ก็จะขายพับละ 30-50 บาท ส่วนยาแก้ไอซื้อมาขวดละ 80 บาท จะนำไปจำหน่ายต่อในราคาขวดละ 120 บาท น้ำอัดลมซื้อมาขวดละ 25 บาท ก็จะนำมาขายต่อในราคาขวดละ 30 บาท ของทั้งหมดจะขายรวมกันเป็นชุด โดย 1 ชุดก็จะมีพืชใบกระท่อม 1 พับ น้ำโค้ก 1 ขวด ยาแก้ไอ 1 ขวด และเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด ขายในราคาชุดละ 200 บาท
หรือถ้ามีลูกค้ามาขอซื้อปลีกอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะแบ่งขาย ส่วนอาวุธปืนได้ซื้อมาจากทหารคนหนึ่งที่อยู่ จ.สุราษฏร์ธานี ในราคากระบอกละ 25,000 บาท ของทั้งหมดก็จะนำมาขายให้แก่คนงานรับจ้างทำไม้ยางพาราแปรรูป และกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่