ยะลา - ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาสั่ง รปภ.เข้มชุมชนชาวไทยพุทธ และพระสงฆ์ขณะออกเดินบิณฑบาต หลังเหตุระเบิดพระสงฆ์ที่จังหวัดปัตตานี
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดพระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะคุ้มครองพระสงฆ์ออกบิณฑบาต บริเวณถนนปากซอยจรูญสำราญ 6 ต.รูสะมิแล หน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 55 ที่ผ่านมา ทำให้พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 2 รูป เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 6 ราย
ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.) ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ยังคงมีพระภิกษุสงฆ์จากวัดต่างๆ ออกรับบิณฑบาตเป็นปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และกองกำลังภาคประชาชน คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางมาร่วมใส่บาตรกับพุทธศาสนิกชนชาวยะลา พร้อมทั้งได้ร่วมพูดคุยขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ
พร้อมทั้งได้สั่งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยกองกำลัง ในการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน พร้อมกับเป็นการสร้างขวัญและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ตลอดจนประชาชนและพระสงฆ์อีกด้วย
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กองกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และกองกำลังภาคประชาชน สำรวจชุมชนไทยพุทธในเขตเทศบาลนครยะลาทั้ง 46 ชุมชน และได้เข้าไปตรวจสอบว่ามีชุมชนใดบ้างที่สุ่มเสี่ยง หรือชุมชนใดบ้างที่เคยถูกฝ่ายตรงข้ามเข้ามาทำร้าย ก็ให้มีการจัดกำลังเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ
นอกจากนั้น ตนได้มอบหมายให้นายอำเภอลงไปทำความเข้าใจกับบรรดาผู้นำชุมชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ในการร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย ร่วมกันหาแนวทางการดูแลรักษาความปลอดภัยในชุมชนของตนเองที่อยู่ร่วมกัน สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.ยะลานั้นก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกการบิณฑบาต หรือหยุดการบิณฑบาตแต่อย่างใด พระภิกษุสงฆ์ยังออกรับบิณฑบาตตามปกติ
แต่ในขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยพระ ให้มีความละเอียดรอบคอบ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง พยายามสังเกตสิ่งผิดปกติ พร้อมทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัยพระขณะรับบิณฑบาต ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเข้ามาสร้างสถานการณ์ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ และพระภิกษุสงฆ์
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดพระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะคุ้มครองพระสงฆ์ออกบิณฑบาต บริเวณถนนปากซอยจรูญสำราญ 6 ต.รูสะมิแล หน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 55 ที่ผ่านมา ทำให้พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 2 รูป เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 6 ราย
ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.) ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ยังคงมีพระภิกษุสงฆ์จากวัดต่างๆ ออกรับบิณฑบาตเป็นปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และกองกำลังภาคประชาชน คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางมาร่วมใส่บาตรกับพุทธศาสนิกชนชาวยะลา พร้อมทั้งได้ร่วมพูดคุยขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ
พร้อมทั้งได้สั่งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยกองกำลัง ในการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน พร้อมกับเป็นการสร้างขวัญและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ตลอดจนประชาชนและพระสงฆ์อีกด้วย
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กองกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และกองกำลังภาคประชาชน สำรวจชุมชนไทยพุทธในเขตเทศบาลนครยะลาทั้ง 46 ชุมชน และได้เข้าไปตรวจสอบว่ามีชุมชนใดบ้างที่สุ่มเสี่ยง หรือชุมชนใดบ้างที่เคยถูกฝ่ายตรงข้ามเข้ามาทำร้าย ก็ให้มีการจัดกำลังเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ
นอกจากนั้น ตนได้มอบหมายให้นายอำเภอลงไปทำความเข้าใจกับบรรดาผู้นำชุมชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ในการร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย ร่วมกันหาแนวทางการดูแลรักษาความปลอดภัยในชุมชนของตนเองที่อยู่ร่วมกัน สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.ยะลานั้นก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกการบิณฑบาต หรือหยุดการบิณฑบาตแต่อย่างใด พระภิกษุสงฆ์ยังออกรับบิณฑบาตตามปกติ
แต่ในขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยพระ ให้มีความละเอียดรอบคอบ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง พยายามสังเกตสิ่งผิดปกติ พร้อมทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัยพระขณะรับบิณฑบาต ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเข้ามาสร้างสถานการณ์ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ และพระภิกษุสงฆ์
