ระนอง - สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดระนองเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สรุปผลกระทบพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย 4,981 ครัวเรือน 23,449 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดระนองมีฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก มาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2555 ซึ่งได้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
โดยทางจังหวัดได้สรุปผลกระทบทั้งหมด พบว่ามีพื้นที่ประสบภัยครอบคลุมทั้งจังหวัด คือ 5 อำเภอ 30 ตำบล 184 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,981 ครัวเรือน จำนวน 23,449 คน โดยแยกเป็นรายอำเภอดังนี้
อำเมืองระนอง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 409 ครัวเรือน 1,228 คน
อำเภอกะเปอร์ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,750 ครัวเรือน 9,250 คน
อำเภอสุขสำราญ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 460 ครัวเรือน 1,662 คน
อำเภอกระบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,750 ครัวเรือน 8,559 คน
และอำเภอละอุ่น ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 612 ครัวเรือน 2,750 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความเสียหายทางด้านทรัพย์สินของทางราชการ สาธารณะประโยชน์ และทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอ เทศบาล และ อบต. เร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการโดยเร่งด่วนต่อไป คาดว่าภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นนี้ได้รับรายงานจากแขวงการทางระนองว่าทางหลวงได้รับความเสียหาย และต้องใช้งบฟื้นฟูบูรณะประมาณ 90 ล้านบาท ส่วนทางหลวงชนบทต้องใช้งบฟื้นฟูซ่อมแซมประมาณ 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ด้วย
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดระนองมีฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก มาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2555 ซึ่งได้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
โดยทางจังหวัดได้สรุปผลกระทบทั้งหมด พบว่ามีพื้นที่ประสบภัยครอบคลุมทั้งจังหวัด คือ 5 อำเภอ 30 ตำบล 184 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,981 ครัวเรือน จำนวน 23,449 คน โดยแยกเป็นรายอำเภอดังนี้
อำเมืองระนอง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 409 ครัวเรือน 1,228 คน
อำเภอกะเปอร์ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,750 ครัวเรือน 9,250 คน
อำเภอสุขสำราญ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 460 ครัวเรือน 1,662 คน
อำเภอกระบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,750 ครัวเรือน 8,559 คน
และอำเภอละอุ่น ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 612 ครัวเรือน 2,750 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความเสียหายทางด้านทรัพย์สินของทางราชการ สาธารณะประโยชน์ และทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอ เทศบาล และ อบต. เร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการโดยเร่งด่วนต่อไป คาดว่าภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นนี้ได้รับรายงานจากแขวงการทางระนองว่าทางหลวงได้รับความเสียหาย และต้องใช้งบฟื้นฟูบูรณะประมาณ 90 ล้านบาท ส่วนทางหลวงชนบทต้องใช้งบฟื้นฟูซ่อมแซมประมาณ 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ด้วย
