ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พายุหมุนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชน ต.ศรีสุนทร-เชิงทะเล ได้รับความเสียหายกว่า 30 หลัง ทั้งหลังคาเปิด กระเบื้องแตกหัก ต้นไม้หักโค่นล้มทับ เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.ของอำเภอถลาง ประมาณ 5-6 นาย พร้อมรถเครนขนาดใหญ่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าไปเคลียร์พื้นที่ และช่วยกันสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชน ที่บ้านลิพอน หมู่ที่ 8 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
หลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุพัดถล่ม มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านเปิด แตกหัก และมีต้นไม้หักโค่นลงมาทับ รวมประมาณ 20 หลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้ มีโครงหลังคาสังกะสีของโรงงานผลิตน้ำในบริเวณใกล้เคียง ถูกลมพัดหอบมาทั้งหมดหล่นมาทับบ้านเลขที่ 27 และบ้านเลขที่ 27/14 และนอกจากนี้ ยังมีเสาเหล็กขนาดใหญ่ของโครงหลังคาแทงลงมาบริเวณหลังคาโรงจอดรถ ของบ้านเลขที่ 27/14 ด้วย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้
นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ว่าได้เกิดพายุหมุนจำนวน 2 ลูก ในลักษณะพัดจากล่างขึ้นบน พัดเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย หลังคาเปิด แตกหัก และมีต้นไม้หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ซึ่งจากการสำรวจความเสียหายตอนนี้ รวมมีประมาณ 25 หลังคาเรือน
ขณะนี้ ทางเทศบาลฯ ได้ใช้รถเครน รถตักของเทศบาลฯ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้ามาเคลียร์พื้นที่ และตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งมีจำนวน 2 หลัง และให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านให้แก่ชาวบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนรั่วเข้าบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านเองก็ได้ช่วยเหลือตัวเองไปก่อนบ้างแล้ว ในส่วนของเทศบาลฯ ก็จะเข้ามาชดเชยความเสียหายในเบื้องต้นต่อไป โอกาสเดียวกันนี้ ทางเทศบาลฯ ได้ให้ช่างลงมาสำรวจความเสียหายเพื่อทำรายงานส่งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อนุมัติงบช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป และเตรียมขอให้ทางป้องกันฯ ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นายคนุด ศิโรทศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ต.ศรีสุนทร เจ้าของบ้านเลขที่ 27/14 เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. กลางดึกที่ผ่านมา ได้มีพายุหมุนจำนวน 2 ลูก พัดเข้ามาทำให้ต้นกระถินณรงค์ บริเวณหลังบ้านหักโค่นลงมา และกิ่งของต้นกระถินณรงค์หักแทงลงไปทะลุหลังคาห้องนอนของนางสมทรง จารุพันธ์ อายุ 65 ปี มารดา ทำให้ต้องวิ่งหนีออกจากห้องด้วยความตกใจ ซึ่งบ้านของตน กับบ้านเลขที่ 27 ได้รับความเสียหายจากลมพัด ทำให้กระเบื้องหลังคาปลิวไปจำนวนมาก และที่น่าตกใจพบว่า โครงเหล็กหลังคาของโรงงานผลิตน้ำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงถูกลมพัดหอบมาทั้งหลัง ทั้งโครงเหล็กทั้งหลังคามาตกอยู่บนหลังคาบ้าน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้าน เพราะถ้าปล่อยไว้ จะทำให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านได้
เช่นเดียวกับ นางแก่น จารุพันธ์ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 127/1 กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงเครื่องบินกำลังจะลงจอด ทำให้ตื่นตกใจ และได้วิ่งออกมาดูหน้าบ้าน เห็นทั้งลม ทั้งฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง และมีพายุหมุนหอบเอากระเบื้องหลังคาบ้านปลิวไปตกแตกจำนวนมาก
ขณะที่ นางกิจจา ไชยแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 24/15 บอกว่า บ้านของตนถูกลมหอบเอาหลังคาในห้องครัว และห้องนอนไปไม่น้อยกว่า 30 แผ่น ซึ่งขณะนี้ ต้องเร่งซ่อมแซมเป็นการด่วน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดมาตนยังไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเอง รู้สึกตกใจมาก ช่วงเกิดเหตุลมพัดเสียงดัง ตื่นลุกขึ้นมาก็ไม่เห็นหลังคาบ้านแล้ว
ด้านนายบุญเกื้อ ปราบชม อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านตัวเองได้ ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น เปียกน้ำฝน เนื่องจากหลังคาบ้านสังกะสี ถูกลมพัดหอบไปทั้งหมด และตนไม่มีเงินที่จะซ่อมแซมบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยด่วนที่สุด
ส่วนที่บ้านบางเทา ม.2 และ ม.5 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ก็ได้รับผลกระทบจากพายุฝนพัดถล่มเช่นเดียวกัน โดยนายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุพัดกระหน่ำเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป ในเบื้องต้น คาดว่ามีจำนวนหลายหลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณชายหาด ทั้งหาดสุรินทร์ บางเทา และหาดเลพัง ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหายด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.ของอำเภอถลาง ประมาณ 5-6 นาย พร้อมรถเครนขนาดใหญ่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าไปเคลียร์พื้นที่ และช่วยกันสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชน ที่บ้านลิพอน หมู่ที่ 8 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
หลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุพัดถล่ม มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านเปิด แตกหัก และมีต้นไม้หักโค่นลงมาทับ รวมประมาณ 20 หลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้ มีโครงหลังคาสังกะสีของโรงงานผลิตน้ำในบริเวณใกล้เคียง ถูกลมพัดหอบมาทั้งหมดหล่นมาทับบ้านเลขที่ 27 และบ้านเลขที่ 27/14 และนอกจากนี้ ยังมีเสาเหล็กขนาดใหญ่ของโครงหลังคาแทงลงมาบริเวณหลังคาโรงจอดรถ ของบ้านเลขที่ 27/14 ด้วย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้
นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ว่าได้เกิดพายุหมุนจำนวน 2 ลูก ในลักษณะพัดจากล่างขึ้นบน พัดเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย หลังคาเปิด แตกหัก และมีต้นไม้หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ซึ่งจากการสำรวจความเสียหายตอนนี้ รวมมีประมาณ 25 หลังคาเรือน
ขณะนี้ ทางเทศบาลฯ ได้ใช้รถเครน รถตักของเทศบาลฯ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้ามาเคลียร์พื้นที่ และตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งมีจำนวน 2 หลัง และให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านให้แก่ชาวบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนรั่วเข้าบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านเองก็ได้ช่วยเหลือตัวเองไปก่อนบ้างแล้ว ในส่วนของเทศบาลฯ ก็จะเข้ามาชดเชยความเสียหายในเบื้องต้นต่อไป โอกาสเดียวกันนี้ ทางเทศบาลฯ ได้ให้ช่างลงมาสำรวจความเสียหายเพื่อทำรายงานส่งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อนุมัติงบช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป และเตรียมขอให้ทางป้องกันฯ ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นายคนุด ศิโรทศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ต.ศรีสุนทร เจ้าของบ้านเลขที่ 27/14 เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. กลางดึกที่ผ่านมา ได้มีพายุหมุนจำนวน 2 ลูก พัดเข้ามาทำให้ต้นกระถินณรงค์ บริเวณหลังบ้านหักโค่นลงมา และกิ่งของต้นกระถินณรงค์หักแทงลงไปทะลุหลังคาห้องนอนของนางสมทรง จารุพันธ์ อายุ 65 ปี มารดา ทำให้ต้องวิ่งหนีออกจากห้องด้วยความตกใจ ซึ่งบ้านของตน กับบ้านเลขที่ 27 ได้รับความเสียหายจากลมพัด ทำให้กระเบื้องหลังคาปลิวไปจำนวนมาก และที่น่าตกใจพบว่า โครงเหล็กหลังคาของโรงงานผลิตน้ำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงถูกลมพัดหอบมาทั้งหลัง ทั้งโครงเหล็กทั้งหลังคามาตกอยู่บนหลังคาบ้าน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้าน เพราะถ้าปล่อยไว้ จะทำให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านได้
เช่นเดียวกับ นางแก่น จารุพันธ์ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 127/1 กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงเครื่องบินกำลังจะลงจอด ทำให้ตื่นตกใจ และได้วิ่งออกมาดูหน้าบ้าน เห็นทั้งลม ทั้งฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง และมีพายุหมุนหอบเอากระเบื้องหลังคาบ้านปลิวไปตกแตกจำนวนมาก
ขณะที่ นางกิจจา ไชยแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 24/15 บอกว่า บ้านของตนถูกลมหอบเอาหลังคาในห้องครัว และห้องนอนไปไม่น้อยกว่า 30 แผ่น ซึ่งขณะนี้ ต้องเร่งซ่อมแซมเป็นการด่วน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดมาตนยังไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเอง รู้สึกตกใจมาก ช่วงเกิดเหตุลมพัดเสียงดัง ตื่นลุกขึ้นมาก็ไม่เห็นหลังคาบ้านแล้ว
ด้านนายบุญเกื้อ ปราบชม อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านตัวเองได้ ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น เปียกน้ำฝน เนื่องจากหลังคาบ้านสังกะสี ถูกลมพัดหอบไปทั้งหมด และตนไม่มีเงินที่จะซ่อมแซมบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยด่วนที่สุด
ส่วนที่บ้านบางเทา ม.2 และ ม.5 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ก็ได้รับผลกระทบจากพายุฝนพัดถล่มเช่นเดียวกัน โดยนายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุพัดกระหน่ำเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป ในเบื้องต้น คาดว่ามีจำนวนหลายหลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณชายหาด ทั้งหาดสุรินทร์ บางเทา และหาดเลพัง ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหายด้วย