ชาวระนองตื่นตกใจแผ่นดินไหว ผู้ว่าฯ สั่งสำรวจความเสียหาย เตือนอย่าตื่นตระหนก

ระนอง - ชาวระนองตื่นตกใจแผ่นดินไหว 4 ริกเตอร์ รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน จนน้ำแกงในจานสั่นกระเพื่อม วิ่งหนีออกจากบ้านมาอยู่ในที่ปลอดภัย แถมมีเสียงคำรามคล้ายฟ้าร้อง ด้านผู้ว่าฯ สั่งสำรวจความเสียหาย เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก แผ่นดินไหว 4 ริกเตอร์ไม่เกิดอันตราย

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อเวลา 12.49 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริกเตอร์ ประชาชนที่อยู่ในบ้านสามารถรับรู้ได้ บางคนตกใจวิ่งออกจากบ้านมาอยู่กลางแจ้ง โดยจุดศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ตำบลหงาว ในเขตป่าชายเลนซึ่งอยู่ในแนวรอยเลื่อนระนอง

นายไพบูลย์ เอี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนี้อยู่ในเขตอำเภอเมืองระนอง อยู่ในเขตป่าชายเลนพื้นที่ตำบลหงาว และตำบลปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งอยู่ในแนวรอยเลื่อนระนอง

ร.ต.ต.โสภณ หนูแก้ว เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามศาลจังหวัดระนอง ต.เขานิเวศน์ เขตเทศบาลเมืองระนอง สามารถรับรู้การสั่นไหวได้อย่างชัดเจน จนน้ำแกงในถ้วยกระเพื่อมจนต้องวิ่งออกมาอยู่นอกบ้าน เช่นเดียวกับหลานที่กำลังกวาดบ้านอยู่ที่ชั้นบนของบ้านตกใจวิ่งลงมาที่ชั้นล่างแล้วออกมาอยู่นอกบ้าน

นอกจากนี้ ในระหว่างที่กำลังเกิดแผ่นดินไหวได้ยินเสียงดังคำรามคล้ายๆ กับฟ้าลั่น ซึ่งจากการโทรศัพท์ไปหาญาติและเพื่อนๆ ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าลั่น และรับรู้การสั่นไหวได้อย่างชัดเจน

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ได้รับการยืนยันแล้วว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ในเขตอำเภอเมืองระนองอย่างแน่นอน มีขนาด 4.0 ริกเตอร์ เพราะสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบหลังเกิดแผ่นดินไหวยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว หากพบว่ามีสิ่งปลูกสร้าง อาคารได้รับความเสียหาย แตกร้าว จะได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก สิ่งที่เกิดขึ้นผู้เชี่ยวชาญได้เคยคาดการณ์ไว้แล้ว แผ่นดินไหวขนาด 4.0 ริกเตอร์ แม้จะรับรู้ได้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับอันตราย ขณะนี้ได้สั่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบการเกิดอาฟเตอร์ช็อกแต่อย่างใด