นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านผวาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเร่งตอกเสาเข็มทำบ้านร้าวต่อเนื่อง โร่แจ้งความ ผู้ควบคุมงานบอก หากตำรวจสั่งให้หยุดต้องจ่ายให้โครงการวันละ 300,000 ท้ายสุด หมดหนทางทางบุกร้องผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ถึงจวน เรียกช่างเทศบาลตรวจสอบบอก “ไม่ใช่อำนาจ”
วันนี้ (3 มิ.ย.) กลุ่มชาวบ้านหลายคนนำโดย นางฐนิตา ใหญ่ยิ่งเจริญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ซอยทิพย์จักษุ พร้อมด้วยเอกสารสำเนาบันทึกประจำวันในการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และเอกสารการร้องต่อศาลปกครองอีกหลายรายการเข้าไปร้องเรียนต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงวันหยุดราชการ โดยนายวิโรจน์ได้มอบหมายให้เลขานุการ มารับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว
นางฐนิตา ใหญ่ยิ่งเจริญ อายุ 40 ปี ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมาร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งผู้ควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับหลังบ้านห้องแถวทาวเฮาส์ 2 ชั้นรวม 7 ห้อง ให้ชะลอการตอกเสาเข็มไว้ก่อน เพื่อหาทางแก้ปัญหาบ้านแตกร้าว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปแจ้งผู้ควบคุมการก่อสร้างกลับได้รับคำตอบว่า หากต้องการให้โครงการหยุดทำงานไว้ก่อนนั้น ตำรวจจะต้องจ่ายเงินให้แก่โครงการวันละ 300,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ขณะที่โครงการยังคงดำเนินการต่อไป บ้านยังคงแตกร้าวต่อไปเรื่อยๆ เมื่อชาวบ้านเข้าไปขอร้องให้หยุดตอกเสาเข็มก่อน ผู้ควบคุมบอกว่าจะดำเนินคดีฐานบุกรุก จนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
นางฐนิตา ยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ได้เข้าร้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช โดยมีผู้ถูกร้องคือ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการไต่สวนแล้วพบว่า โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งยังไม่มีการอนุญาต แต่โครงการได้สร้างไปก่อนแล้ว ซึ่งได้มีการระงับการก่อสร้างชั่วคราวไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.55 โดยการแจ้งของนายช่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราชด้วยวาจา และต่อมา มีการเดินเรื่องขออนุญาตจนแล้วเสร็จ เทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้อนุญาตให้มีการก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 พ.ค.55 ที่ผ่านมานี่เอง หลังศาลได้ยกคำขอกำหนดมาตรการวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว และมาเข้าช่วงวันหยุดโครงการได้ทำการตอกเสาเข็มอย่างต่อเนื่องจนไม่รู้ว่าจะไปพึ่งพาใครให้บรรเทาความเดือดร้อน
ต่อมา นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช มารับเรื่องจากชาวบ้าน และให้นายอำพล สังข์ทอง หน.ชุดเฉพาะกิจศรีวิชัย ไปประสานกับนายช่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจท้องถิ่นเข้าแก้ไขปัญหา โดยเมื่อช่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านของผู้เสียหายทั้งหมดพบว่า มีแรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็มอย่างต่อเนื่อง รอยร้าวขยายวงกว้างมากขึ้น เมื่อมีการนำเอาแก้วใส่น้ำมาวางบนโต๊ะจะเห็นแรงสั่นสะเทือนได้ชัด และท้ายที่สุด นายช่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ระบุกับผู้เสียหายว่า ไม่ใช่อำนาจของช่างเทศบาล แต่เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ทำให้ชาวบ้านต่างพากันผิดหวังในการแก้ไขปัญหา
ภายหลังผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ นายศรีโรจน์ อนุตรเศรษฐ์ หุ้นส่วนโครงการดังกล่าวซึ่งได้รับการชี้แจงว่า โครงการพร้อมที่จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาตามหลักวิศวกรรม โดยมีวิศวกรเข้าไปตรวจสอบดูแล แต่อย่างไรก็ตาม ในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีบางอย่างที่จะต้องประสานงานกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หุ้นส่วนโครงการรายนี้กล่าว