ผู้ว่าฯ ตรัง กำชับเฝ้าระวังทุกพื้นที่หลังเกิดพายุฝนกระหน่ำ

ตรัง - เกิดพายุพัดแรงและมีฝนตกลงมาอย่างหนักในเขตเทศบาลนครตรัง ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าล้มทับบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย ผู้ว่าฯ สั่งกำชับหน่วยงานในทุกพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุพัดแรงในพื้นที่ จ.ตรัง และมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นลงมาเสียหายพร้อมกันจำนวนหลายจุด และยังกีดขวางเส้นทางการเดินรถ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยเฉพาะบริเวณถนนรื่นรมย์ข้าง สภ.เมืองตรัง ถนนรัษฎา ถนนปะเหลียน ถนนวิเศษกุล และถนนโรงเรียน ส่งผลกระทบให้การจราจรเป็นอัมพาต และกระแสไฟฟ้าดับนานประมาณ 1 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ระดมกำลังให้การช่วยเหลือเพื่อรื้อย้ายต้นไม้ รวมทั้งเสาไฟฟ้าที่หักโค่นลงมาบนถนน และตามบ้านเรือน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้น นอกจากนั้น ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเหตุภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นจากพายุและฝนตกหนัก ในช่วงระยะนี้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขาให้ระวังดินถล่มลงมา แต่สำหรับประชาชนยังไม่ต้องกังวลกับการเกิดน้ำท่วม เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำตรัง อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 5.70 เมตร ระดับน้ำในคลองปะเหลียน อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 2.92 เมตร และระดับน้ำในคลองนางน้อย อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 2.06 เมตร

อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้สั่งกำชับให้ทุกพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอนาโยง และอำเภอย่านตาขาว ที่อยู่ติดเขาแนวเขตเทือกเขาบรรทัด ให้ระวังการเกิดดินโคลนถล่มลงมา ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับประชาชนได้ ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเตรียมอุปกรณ์กู้ชีพ กู้ภัย เอาไว้คอยช่วยเหลือ รวมไปถึงการกำชับมิสเตอร์เตือนภัยให้คอยเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ซึ่งหากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ให้เตือนประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ทันที