ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลาได้รับความเดือดร้อนจากลมฝนที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) จากต้นไม้ที่หักโค่นใส่บ้าน และหลังคาถูกลมพัดปลิว ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้รับรายงานความเสียหายแล้ว 4 อำเภอ โดยจังหวัดได้จัดสรรให้อำเภอละ 2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
วันนี้ (28 พ.ค.) จากเหตุการณ์ลมกระโชกแรงและฝนพัดกระหน่ำเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ส่งผลให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากสภาพบ้านเรือนที่พังเสียหาย และรอความช่วยเหลือ เช่นในพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ มีบ้านเรือน 4 หมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายจากทั้งหมด 10 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 8 และหมู่ 9 สภาพความเสียหายมีทั้งที่ถูกต้นไม้ และต้นยางพาราโค่นล้มใส่บ้าน และกระเบื้องหลังคาถูกลมพัดเสียหาย และหลายหลังยังเสี่ยง เนื่องจากต้นยางพาราอยู่ในสภาพเอนเอียงอาจล้มอีกครั้งหากยังมีลมฝนพัดกระหน่ำซ้ำสอง
ทางด้าน นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.สงขลามีรายงานความเสียหายที่แจ้งเข้ามาแล้ว 4 อำเภอประกอบด้วย อ.เมือง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และอำเภอสะเดา ซึ่งสภาพความเสียหายส่วนใหญ่ถูกลมพัดหลังคา และต้นไม้หักโค่นใส่บ้าน แต่โดยภาพรวมไม่รุนแรง และไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยประสานให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมด และแจ้งไปยังแต่ละอำเภอซึ่งจะมีเงินทดรองราชการสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ทางจังหวัดได้จัดสรรให้อำเภอละ 2 ล้านบาทอยู่แล้ว โดยหากเสียหายทั้งหลังจ่ายให้หลังละ 30,000 บาท และที่เสียหายบางส่วนจ่ายตามสภาพความเสียหายจริง แต่ไม่เกินหลังละ 20,000 บาท
