นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านแจ้งตำรวจตรวจสอบพระภิกษุนั่งเมาสุรา นั่งฉันข้าวก่อนเที่ยงแบบไม่สำรวม พบขวดเหล้าขาวข้างกุฏิกว่า 50 ขวด ผู้ใหญ่บ้านสอบถามเจ้าคณะตำบลได้รับคำตอบ “เมาในวัดเป็นเรื่องปกติ” ระบุหากไม่มีการดำเนินการใดๆ ชาวบ้านจะรวมตัวประท้วงขับไล่ให้ออกจากวัด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (21 พ.ค.) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง ว่ามีพระภิกษุมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเมายาภายในวัดอยู่เป็นประจำ โดยพระภิกษุรูปดังกล่าวจำวัดอยู่ที่วัดนาสน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น จึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พร้อมด้วยนายวรภรณ์ เพชรกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 เมื่อไปถึง พบพระประเสริฐ สุธิญาโณ อายุ 57 ปี เป็นพระลูกวัดนาสน กำลังนั่งฉันข้าวอยู่ที่กุฏิในลักษณะถอดจีวร นุ่งแต่สบงเท่านั้น อยู่ในสภาพพูดจาลิ้นเต็มปากเหมือนคนเมาสุรา
จากนั้น เจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านเข้าไปสอบถามว่าทำไมนั่งฉันข้าวในลักษณะนั้น ก็ได้รับคำตอบจากพระประเสริฐ ว่า “พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าให้นั่งฉันข้าวเรียบร้อย” เจ้าหน้าที่จึงไปสอบถามพระพเยาว์ กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดนาสนว่า ปล่อยให้พระลูกวัดเมาสุราอย่างนั้นได้อย่างไร ทางเจ้าอาวาสไม่ยอมพูดคุยด้วย เพียงบอกว่า เมื่อตอนเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา พระประเสริฐเมาสุราที่งานชักพระจนกลับวัดไม่ถูกมาแล้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบอยู่รอบๆ กุฏิของพระประเสริฐ ปรากฏว่า พบขวดเหล้าขาวกองอยู่ประมาณ 40-50 ขวด
นายวรภรณ์ เพชรกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น กล่าวว่า ทนดูพฤติกรรมของพระประเสริฐมานานแล้ว ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามในเรื่องนี้กับเจ้าคณะตำบลมะม่วงสองต้น เจ้าอาวาสวัดเตาปูน ได้รับคำตอบที่แปลกมาก เจ้าคณะตำบลบอกว่า “พระดื่มสุราในวัดเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าดื่มนอกวัดนั้นดื่มไม่ได้” ซึ่งเป็นคำตอบที่สร้างความข้องใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งตนรวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่จะทำหนังสือถึงผู้รับผิดชอบคณะสงฆ์ให้ดำเนินการกับประเสริฐฯ หากไม่มีการจัดการใดๆ ก็จะรวมตัวชุมนุมขับไล่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพระประเสริฐ นั้นเคยมีเรื่องอื้อฉาวมาแล้วครั้งหนึ่ง คือเมื่อวันที่ 15 ต.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวันออกพรรษา หรือวันชักพระ โดยพระประเสริฐ กับลูกศิษย์คนหนึ่งนำเอารถกระบะดัดแปลงเป็นเรือพนมพระไปจอดที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ชาวบ้านร่วมทำบุญวันออกพรรษา และแอบดื่มเหล้าไปด้วย ประพรมน้ำมนต์ให้แก่ชาวบ้านด้วยโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ ดื่มกันจนสว่าง แล้วพระประเสริฐ ได้ขับรถกลับวัดด้วยตัวเอง แต่ด้วยความเมาจึงกลับวัดไม่ถูก จึงจอดนอนริมถนน แต่จนถึงขณะนี้ทางผู้รับผิดชอบยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ยังคงปล่อยให้พระประเสริฐ อยู่ในคราบพระภิกษุอย่างลอยนวล
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (21 พ.ค.) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง ว่ามีพระภิกษุมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเมายาภายในวัดอยู่เป็นประจำ โดยพระภิกษุรูปดังกล่าวจำวัดอยู่ที่วัดนาสน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น จึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พร้อมด้วยนายวรภรณ์ เพชรกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 เมื่อไปถึง พบพระประเสริฐ สุธิญาโณ อายุ 57 ปี เป็นพระลูกวัดนาสน กำลังนั่งฉันข้าวอยู่ที่กุฏิในลักษณะถอดจีวร นุ่งแต่สบงเท่านั้น อยู่ในสภาพพูดจาลิ้นเต็มปากเหมือนคนเมาสุรา
จากนั้น เจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านเข้าไปสอบถามว่าทำไมนั่งฉันข้าวในลักษณะนั้น ก็ได้รับคำตอบจากพระประเสริฐ ว่า “พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าให้นั่งฉันข้าวเรียบร้อย” เจ้าหน้าที่จึงไปสอบถามพระพเยาว์ กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดนาสนว่า ปล่อยให้พระลูกวัดเมาสุราอย่างนั้นได้อย่างไร ทางเจ้าอาวาสไม่ยอมพูดคุยด้วย เพียงบอกว่า เมื่อตอนเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา พระประเสริฐเมาสุราที่งานชักพระจนกลับวัดไม่ถูกมาแล้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบอยู่รอบๆ กุฏิของพระประเสริฐ ปรากฏว่า พบขวดเหล้าขาวกองอยู่ประมาณ 40-50 ขวด
นายวรภรณ์ เพชรกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.มะม่วงสองต้น กล่าวว่า ทนดูพฤติกรรมของพระประเสริฐมานานแล้ว ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามในเรื่องนี้กับเจ้าคณะตำบลมะม่วงสองต้น เจ้าอาวาสวัดเตาปูน ได้รับคำตอบที่แปลกมาก เจ้าคณะตำบลบอกว่า “พระดื่มสุราในวัดเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าดื่มนอกวัดนั้นดื่มไม่ได้” ซึ่งเป็นคำตอบที่สร้างความข้องใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งตนรวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่จะทำหนังสือถึงผู้รับผิดชอบคณะสงฆ์ให้ดำเนินการกับประเสริฐฯ หากไม่มีการจัดการใดๆ ก็จะรวมตัวชุมนุมขับไล่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพระประเสริฐ นั้นเคยมีเรื่องอื้อฉาวมาแล้วครั้งหนึ่ง คือเมื่อวันที่ 15 ต.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวันออกพรรษา หรือวันชักพระ โดยพระประเสริฐ กับลูกศิษย์คนหนึ่งนำเอารถกระบะดัดแปลงเป็นเรือพนมพระไปจอดที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ชาวบ้านร่วมทำบุญวันออกพรรษา และแอบดื่มเหล้าไปด้วย ประพรมน้ำมนต์ให้แก่ชาวบ้านด้วยโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ ดื่มกันจนสว่าง แล้วพระประเสริฐ ได้ขับรถกลับวัดด้วยตัวเอง แต่ด้วยความเมาจึงกลับวัดไม่ถูก จึงจอดนอนริมถนน แต่จนถึงขณะนี้ทางผู้รับผิดชอบยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ยังคงปล่อยให้พระประเสริฐ อยู่ในคราบพระภิกษุอย่างลอยนวล