นราธิวาส - แม่ทัพภาค 1 ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมอบนโยบายแก่ 5 หน่วย เน้นย้ำห้ามสร้างเงื่อนไขให้เหตุบานปลาย
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผอ.รมน.ภาค 1 เดินทางพร้อมคณะ พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองแม่ทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.ฉก.นราธิวาส พร้อมกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสให้การต้อนรับ
โดย พล.ท.อุดมเดช แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เข้าประชุมลับเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงเพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานของ ฉก.นราธิวาส ซึ่งมี พล.ต.กัมปนาท ผบ.ฉก.นราธิวาสเป็นผู้บรรยายสรุป ทั้งแนวทางเชิงรุกและมวลชนสัมพันธ์ โดยในห้วงที่ผ่านมา ทางหน่วยฯ ได้ปฏิบัติตามนโยบายแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และหน่วยที่ขึ้นตรงสังกัดกองทัพภาคที่ 1 ที่รับผิดชอบในพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.แว้ง, สุไหงโก-ลก, ตากใบ, ศรีสาคร และสุคิริน มีจำนวน 4 หน่วยคือ ฉก.นราธิวาส 35, ฉก.นราธิวาส36, ฉก.นราธิวาส 37 และกรมทหารพรานที่ 11 ซึ่งทั้ง 4 หน่วยได้มีการบูรณาการการปฏิบัติทั้งเชิงรุกและมวลชนสัมพันธ์ให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ให้คลี่คลายไปได้โดยเร็วที่สุด
ซึ่ง พล.ท.อุดมเดช แม่ทัพภาคที่ 1 ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติโดยให้ทุกนายยึดหลักยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นแนวทางในการทำงานที่จะต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ผลการปฏิบัติเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ที่สำคัญ ใช้แนวทางที่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำหนดกรอบไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วในทุกๆ เรื่อง หลังจากนั้น พล.ท.อุดมเดช ได้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลพร้อมมอบเงินบำรุงหน่วย และก่อนที่ พล.ท.อุดมเดช แม่ทัพภาคที่ 1 จะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่ 5 อำเภอ
ได้มอบโอวาทแก่กำลังพลของ ฉก.นราธิวาส รวมทั้งชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์โดยเน้นย้ำให้ทุกนายต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยให้รักษาชื่อเสียง และภาพลักษณ์ของกองทัพเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเชื่อมั่นให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ใต้บังคับบัญชาขอให้ทุกนายมีวินัย และเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา อีกทั้งให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เพื่อประเทศชาติต่อไป