ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองภูเก็ต นำตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 คน ฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ตแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เกรงหลบหนีออกนอกประเทศ เร่งประสานตำรวจภูธรตรังควานหาตัวหัวหน้าแก๊งและเพชรที่หายอีก 170 ชิ้น มูลค่ากว่า 5 ล้านบาทกลับคืนให้ผู้เสียหาย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายแก๊งต่างชาติ ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ฉกเครื่องเพชร มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ นายรูเบ็น คาร์โอ ซาปต้า กอนซาเลช สัญชาติเม็กซิโก และน.ส.โรสลินา บินทิ อาบู บาคาร์ สัญชาติมาเลเซีย ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเห็นว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นคนต่างชาติ หากได้รับการประกันตัวจะต้องหลบหนีออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
ส่วนนายบิกัน ริซ่า สัญชาติตุรกี ผู้ต้องหาอีกรายนั้น ขณะนี้ถูกดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดอยู่ที่จังหวัดตรัง หากดำเนินคดียาเสพติดแล้วเสร็จ ก็จะอายัดตัวมาดำเนินคดีต่อที่จังหวัดภูเก็ตอีกรอบหนึ่ง
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ ยังกล่าวถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ น.ส.มาเรีย แอสเซนเนส เมเจีย ซูรัวก้า ชาวเม็กซิโก เป็นหัวหน้าแก๊งและวางแผนการโจรกรรมในครั้งนี้ ว่า ทางตำรวจได้ออกหมายจับตั้งแต่ช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการประสานกับทางตำรวจภูธรจังหวัดตรังในการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี และเชื่อว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย เพราะไม่มีพาสปอร์ตในการเดินทางออกนอกประเทศ
ส่วนเรื่องเครื่องเพชรที่หายไปประมาณ 170 ชิ้นนั้น อยู่ระหว่างการติดตามกลับมาเช่นกัน ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่นำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ให้การว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งเครื่องเพชรแต่อย่างใด ในช่วงของการหลบหนี ซึ่งเรื่องนี้ผู้ต้องหาอาจจะพูดจริงหรือไม่จริงก็ได้ จะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีก แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะพยายามตามหาเพชรกลับมาคืนผู้เสียหายให้ครบทั้ง 600 กว่าชิ้น