สุราษฏร์ธานี - โรงตึ้ง ทน.สุราษฎร์ธานี สำรองเงินกว่า 100 ล้าน รับช่วงเปิดเทอม เฉลี่ยสูงสุด 350-400 คนต่อวัน ขณะที่ทองคำรูปพรรณคนแห่มาจำนำมากที่สุดกว่า 95%
นายไพโรจน์ นุราช ผู้ช่วยผู้จัดการ สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดเทอมนี้ มีประชาชนมาใช้บริการสถานธนานุบาลกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยขั้นต่ำวันละประมาณ 200 คน สูงสุดประมาณ350-400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อบุตรหลาน
โดยทางสถานธนานุบาล ได้เตรียมเงินสำรองไว้รองรับประมาณ 100 ล้านบาท เป็นงบของเทศบาลนครสุราษฏร์ธานี 50 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. อีก 50 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้ที่มาใช้บริการ
สำหรับสิ่งของที่ประชาชนนำไปจำนำมากที่สุด ยังคงเป็นทองคำรูปพรรณ ประมาณ 95% อัตราสูงสุดสำหรับทองรูปพรรณหนัก 1 บาทนั้น จำนำได้เต็มที่ 18,000 บาท ทั้งนี้ ทางโรงรับจำนำคิดอัตราดอกเบี้ยดังนี้ กรณีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0.25 บาท มากกว่า 5,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาท มากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 23,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท และมากกว่า 23,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาท
จากการสอบถามประชาชนที่ไปใช้บริการส่วนใหญ่ได้ระบุเหตุผลในการใช้บริการโรงรับจำนำว่า เป็นช่วงเปิดเทอม มีภาระค่าใช้จ่ายเพื่อบุตรหลานจำนวนมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้นำเงินไปใช้จ่าย และเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ขณะที่สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี สินค้าราคาแพงโดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง จึงต้องหันเข้ามาพึ่งใช้บริการของโรงรับจำนำ
นายไพโรจน์ นุราช ผู้ช่วยผู้จัดการ สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดเทอมนี้ มีประชาชนมาใช้บริการสถานธนานุบาลกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยขั้นต่ำวันละประมาณ 200 คน สูงสุดประมาณ350-400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อบุตรหลาน
โดยทางสถานธนานุบาล ได้เตรียมเงินสำรองไว้รองรับประมาณ 100 ล้านบาท เป็นงบของเทศบาลนครสุราษฏร์ธานี 50 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. อีก 50 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้ที่มาใช้บริการ
สำหรับสิ่งของที่ประชาชนนำไปจำนำมากที่สุด ยังคงเป็นทองคำรูปพรรณ ประมาณ 95% อัตราสูงสุดสำหรับทองรูปพรรณหนัก 1 บาทนั้น จำนำได้เต็มที่ 18,000 บาท ทั้งนี้ ทางโรงรับจำนำคิดอัตราดอกเบี้ยดังนี้ กรณีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0.25 บาท มากกว่า 5,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาท มากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 23,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท และมากกว่า 23,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาท
จากการสอบถามประชาชนที่ไปใช้บริการส่วนใหญ่ได้ระบุเหตุผลในการใช้บริการโรงรับจำนำว่า เป็นช่วงเปิดเทอม มีภาระค่าใช้จ่ายเพื่อบุตรหลานจำนวนมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้นำเงินไปใช้จ่าย และเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ขณะที่สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี สินค้าราคาแพงโดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง จึงต้องหันเข้ามาพึ่งใช้บริการของโรงรับจำนำ