xs
xsm
sm
md
lg

เผยคนร้ายฉกเพชรมีข้อมูลงานโชว์ทั่วเอเชีย - ยังไร้วี่แววหัวหน้าแก๊ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

2ผู้ต้องหาทุบรถฉกเพชรที่ภูเก็ตถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การภูเก็ตเผยหัวหน้าแก๊งวางแผนปล้นเพชร 30 ล้านยังหนี ออกหมายจับประสานทุกพื้นที่ติดตามจับกุมตัวมั่นใจจับได้แน่ ขณะที่เพชรของกลางยึดกลับมาได้แล้วประมาณ 25 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 5 ล้าน อยู่ระหว่างการติดตาม คาดน่าจะอยู่กับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ตร.เผยคนร้ายมีข้อมูลจัดงานโชว์เพชรทั่วเอเชีย
ผู้ต้องหาที่หลบหนีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับเป็นหัวหน้าแก๊งก่อเหตุ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำตัว นางสาวโรสลินา บินทิ อาบู บาการ์ (ROSULINA BINTI ABU BAKAR) ชาวมาเลเซีย และนายลูเบ็น ดาริโอ ซาปาตา กอนซาเลซ (RUBEN DARIO ZAPATA GONZALEZ) ชาวเม็กซิกัน ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดขวางสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร พร้อมด้วยของกลางเครื่องประดับเพชรจำนวน 432 ชิ้น มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทำแผนขั้นตอนการก่อเหตุ โดยมีนายธงศักดิ์ จินตการฤกษ์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหายร่วมด้วย
นายลูเบ็น ดาริโอ ซาปาต้า กอนซาเลซ (RUBEN DARIO ZAPATA GONZALEZ ) ชาวแม็กซิโก
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกรถของนายธงศักดิ์ จินตการฤกษ์ อายุ 46 ปี ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณถนนบางใหญ่ หลังห้างบิ๊กซีภูเก็ต หน้าร้านน้องบูม ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และลักเอาเครื่องเพชรจำนวน 600 ชิ้นราคาประมาณ 30 ล้าน ที่เก็บไว้ในรถยนต์คันดังกล่าวไป และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถสืบทราบว่าแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน
นางสาวโรสลินา บินทิ อาบู บาการ์ ( ROSULINA BINTI ABU BAKAR ) ชาวมาเลเซีย
ประกอบด้วย นางสาวโรสลินา บินทิ อาบู บาการ์ (ROSULINA BINTI ABU BAKAR) ชาวมาเลเซีย และนายลูเบ็น ดาริโอ ซาปาตา กอนซาเลซ (RUBEN DARIO ZAPATA GONZALEZ) ชาวเม็กซิกัน นายบัลกัน ริซา (BALKAN RIZA) ชาวตุรกี และมีนางสาวมาเรีย แอสเซนเนธ เมเจีย ซูลัวกา (MAPIA ASSENETH MEJIA ZULUAGA) ชาวเม็กซิกัน เป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นวางแผนการฉกเพชรในครั้งนี้ทั้งหมด โดยเป็นผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารต่างๆ รวมทั้งวางแผนอำพรางตัวเอง
หมายจับนายบัลกัน ริซ่า (BALKAN RIZA) ชาวตุรกี
โดยคนร้ายกลุ่มนี้ได้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เช่ารถที่ใช้ก่อเหตุมาจากกรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน และมาเช่าที่ภูเก็ตอีก 1 คัน โดยติดตามผู้เสียหายมานานพอสมควร เมื่อผู้เสียหายเผลอจึงได้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบสมุดบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานโชว์เพชรทั่วทั้งเอเชีย ขณะนี้ในส่วนของ นางสาวมาเรีย แอสเซนเนธ เมเจีย ซูลัวกา (MAPIA ASSENETH MEJIA ZULUAGA) ชาวแม็กซิกัน หัวหน้าแก๊งยังอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เชื่อว่าจะสามารถจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน เพราะได้ส่งหมายจับพร้อมรูปของผู้เสียหายไปให้ตำรวจในทุกพื้นที่แล้ว ขณะที่ผู้ต้องหาชาวตุรกีที่ไม่ได้นำมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้เนื่องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ที่จังหวัดตรัง
ผู้เสียหายกำลังชี้ทรัพย์สินที่ยึดกลับมาได้
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์กล่าวอีกว่า สำหรับทรัพย์สินของผู้เสียหายที่หายไปอีก 170 กว่าชิ้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตาม ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่กับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการจิวเวลรีทั้งหลายว่าให้ระมัดระวังในการนำทรัพย์สินของมีค่าออกไปครั้งละจำนวนมากๆ เพราะอาจจะเป็นเป้าหมายของคนร้ายที่แฝงตัวเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเพื่อที่จะก่อเหตุอยู่ก็ได้ หรือให้เรียกใช้บริการของบริษัทขนส่งที่มีการทำประกันภัย ในการขนส่งสินค้าเหล่านี้ เพราะจะมีระบบการดูแลป้องกันเป็นอย่างดี ซึ่งในส่วนของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมของผู้เสียหายมาพอสมควรก่อนที่จะลงมือว่าผู้เสียหายเข้าออกอย่างไร พักที่ไหน ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้มีการติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต
ของกลางที่ยังเหลืออยู่
หัวหน้าแก๊งผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี
ขณะที่ นายธงศักดิ์ จินตการกฤษ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า สำหรับทรัพย์สินที่ยังสูญหายอยู่นั้นมีมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งตนขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สามารถสืบสวนแกะรอยคนร้าย ทำทุกอย่างทั้งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด และการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้

และสามารถยึดของกลางคืนมาได้เกือบทั้งหมด ตนรู้สึกพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทในการทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่ได้หลับได้นอน แม้ว่าทรัพย์สินที่ได้กลับมาจะได้มาไม่ครบทั้งหมดก็ตาม ถือว่าตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการพูดคุยกับเพื่อนๆ ส่วนใหญ่บอกมีเพียง 1 ในล้านเท่านั้นที่จะได้กลับมา แต่ตนก็ได้ตำรวจที่ทำงานดีจนสามารถนำทรัพย์สินกลับมาได้เกือบทั้งหมด ขอชื่นชมตำรวจภูเก็ต และตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ผู้เสียหายขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น