พัทลุง - นายอนุรักษ์ ศรีเกิด นำนักเตะทีมพัทลุง เอฟซี เข้าสาบานตนต่อหน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เพื่อสาบานตนว่าพวกตนได้ทำทีมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้ประพฤติเสียหายตามคำเล่าลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่ทีมฟุตบอล “อีแอ่นเหินฟ้า” หรือพัทลุง เอฟซี พ่ายแก่คู่ต่อสู้ติดต่อกัน 3 นัด จนนายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ ผู้จัดการทีมฯ ต้องประกาศปลดทีมสต๊าฟโค้ช คงเหลือไว้เพียง นายอนุรักษ์ ศรีเกิด หรือ โค้ชจุ่น ซึ่งนัดล่าสุดนักเตะทีมพัทลุง เอฟซี ไปตีเสมอ ราชบุรี เอฟซี ถึงถิ่น แต่สถานการณ์ทีมก็ไม่ดีขึ้น เพราะกระแสล้มบอล ปล่อยเงินกู้ให้กับนักเตะภายในทีม มีมาอย่างต่อเนื่อง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (9 พ.ค.) นายอนุรักษ์ ได้นำลูกทีมทุกคน นำช่อดอกไม้ ธูป เทียน มาสาบานตนต่อหน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ (พระสี่มุมเมือง) บริเวณข้างศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อสาบานตนว่าพวกตนได้ทำทีมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้ประพฤติเสียหายตามคำเล่าลือ หากพวกตนผิดคำสาบานขอให้เกิดอันเป็นไปแก่ตนและลูกทีม
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ตนมีความสุข และสบายใจในการทำหน้าที่โค้ชให้กับทีมพัทลุง เอฟซี และยังรัก ศรัทธาต่อผู้บริหารของทีมอยู่เสมอ แต่หลังจากมีการปลดสต๊าฟโค้ชออกไปแล้ว ทำให้ทีมปั่นป่วนอย่างหนัก ขณะนี้ยังขาดสนามฝึกซ้อม อุปกรณ์การซ้อม ขาดแพทย์ประจำทีม ทำให้นักเตะในทีมขวัญผวาไปตามๆ กัน ส่วนนักเตะต่างชาติบางรายวีซาขาด ขณะนี้ยังไม่มีการต่อวีซ่าแต่อย่างใด ทางผู้ใหญ่ของทีมบอกกับตนว่า หลังจากเสร็จสิ้นจากการดวลแข้งกับราชบุรี เอฟซี ก็จะมีการแต่งตั้งกลุ่มสต๊าฟโค้ชกลุ่มใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด จึงทำให้การดูแลนักเตะไม่ทั่วถึง แต่ตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งตนคิดว่าน่าจะนำสต๊าฟโค้ชชุดเก่ามาทำงานให้กับทีมอีกครั้ง โดยมีการปรับปรุง แก้ไข ในส่วนที่ผู้บริหารมองว่าบกพร่องให้ดีขึ้น
โค้ชจุ่นฯ กล่าวอีกว่า การลงดวลแข้งกับทีมสุพรรณบุรี เอฟซี ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง ของมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รอบที่ 2 ในวันนี้(9 พ.ค.) นั้น ตนไม่หนักใจแต่อย่างใด เพราะทีมสุพรรณบุรี เอฟซี จะส่งนักเตะตัวสำรองลงแข่งขันมากกกว่าตัวจริง เพราะจะต้องเตรียมนักเตะไปดวลแข้งกับทีมกระบี่ เอฟซี ในวันอาทิตย์หน้า ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกระบี่ ตนคิดว่าทั้ง 2 ทีมมีฝีมือสูสีกัน สภาพทีมโดยรวมก็คล้ายคลึงกัน นักเตะก็ฝีเท้าคล้ายกัน ตนจึงไม่หนักใจแต่อย่างใด