ชุมพร - รถทัวร์กรุงเทพฯ-ภูเก็ต โดนแก๊งป่วนเมืองท่าแซะ ปาหินก้อนขนาดใหญ่กว่ากำปั้นถูกกระจกประตูด้านคนขับแตกละเอียดทั้งบาน หวิดเสียหลักพลิกคว่ำ จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากป้อมตำรวจแค่ 100 เมตร
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (22 เม.ย.) ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ สมัยแก้ว ร้อยเวร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถทัวร์ถูกแก๊งปาหิน ปาก้อนหินใส่โดนกระจกแตกเสียหาย ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หลัก กม.487 หมู่ 12 ต.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ 2 ชั้น สีฟ้า ทะเบียน 10-0974–ภูเก็ต หมายเลขข้างรถ 949-18 หน้ารถเขียนข้อความว่า “ภูเก็ตท่องเที่ยว” จอดกะพริบไฟอยู่ริมถนนเพชรเกษมช่องทางขาล่องใต้ หน้าปั๊มน้ำมันเยื้องกับป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะ มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน และอยู่ในอาการตื่นตกใจ โดยมี นายกำธร หนูทองแดง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 9 ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา คนขับรถทัวร์คันดังกล่าวยืนรอพบตำรวจอยู่
จากการตรวจสอบพบว่า ที่บานกระจกประตูด้านคนขับแตกละเอียดทั้งบาน เศษกระจกตกเกลื่อนอยู่บนเบาะนั่งคนขับ และที่พื้นวางเท้าจำนวนมาก นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อย เป็นหินแกรนิตสีเทาเข้มชนิดเดียวกับที่ใช้ทำถนนลาดยาง และรองหมอนรถไฟ ตกอยู่ในช่องวางเท้าคนขับจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายกำธร หนูทองแดง คนขับทราบว่า ได้ขับรถทัวร์คันดังกล่าวออกมาจากสถานีขนส่งสายใต้ช่วงค่ำของวันที่ 21 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคันจำนวน 48 ที่นั่ง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง จ.ภูเก็ต จนกระทั่งกลางดึกได้ขับมาถึงบริเวณทางโค้งลงเนินใกล้กับทางแยกไปสนามบินชุมพร ก่อนถึงป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะประมาณ 100 เมตร ได้มีวัตถุพุ่งมาจากถนนเลนช่องทางขาขึ้นฝั่งตรงข้าม พุ่งมากระทบถูกที่บานกระจกประตูรถด้านขวามือตรงจุดที่นั่งคนขับเข้าอย่างแรง จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน ทำให้นายกำธรคนขับตกใจจนรถเกือบเสียหลักลงข้างทาง และได้พยายามบังคับรถเข้าจอดริมถนนบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันอยู่เยื้องกับป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะ ใกล้กับสัญญาณไฟเขียว-แดง ส่วนผู้โดยสารตกใจตื่น และหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก และนายกำธรคนขับได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนสาเหตุจากการตรวจสอบก้อนหินซึ่งเป็นก้อนหินขนาดใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อยน้ำหักประมาณครึ่งกิโลกรัม สีเทาเข้มมีลักษณะแววเลื่อม ไม่มีฝุ่น หรือเศษดินติดเกาะอยู่เลย จึงน่าจะเป็นการที่คนร้ายแก๊งปาหินเก็บเตรียมเอาไว้ก่อเหตุโดยเฉพาะ เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งวัยรุ่นกวนเมือง หรือพวกคึกคะนอง ขับรถ จยย. หรือรถยนต์กระบะมาบนถนนเลนฝั่งตรงข้าม แล้วคนนั่งซ้อนท้าย จยย. หรือคนนั่งมาในกระบะหลังรถยนต์ เมื่อเจอรถทัวร์ขับสวนมาทางช่องทางขาล่องใต้ จึงปาก้อนหินเข้าใส่ หรืออาจจะแอบซุ่มอยู่บริเวณเกาะกลางถนนแล้วปาก้อนหินใส่รถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้ส่งชุดสายสืบออกสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมแก๊งปาหินมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ช่วงเดือนสิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์แก๊งปาหินขับรถ จยย. รถยนต์ ออกอาละวาดปาหิน ยิงหนังสติ๊กหัวนอต ใส่รถยนต์กระบะ รถเก๋ง รถทัวร์ รถบรรทุก 6 ล้อ และรถบรรทุก 10 ล้อ เกือบตลอดทั้งเดือน และลุกลามไปยังอำเภออื่นๆ ของพื้นที่ จ.ชุมพร ที่อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาได้รับความเสียหายเดือนร้อนจำนวนมาก จนประชาชนหวาดผวาไม่กล้าขับรถผ่านถนนสายดังกล่าว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องจัดรถยนต์ รถ จยย.สายตรวจ พร้อมกำลังกว่า 100 นาย ออกตรวจตราป้องกันเหตุ และให้ความมันใจแก่ประชาชนที่ต้องใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวในการสัญจรไปมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศในขณะนั้น
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (22 เม.ย.) ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ สมัยแก้ว ร้อยเวร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถทัวร์ถูกแก๊งปาหิน ปาก้อนหินใส่โดนกระจกแตกเสียหาย ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หลัก กม.487 หมู่ 12 ต.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ 2 ชั้น สีฟ้า ทะเบียน 10-0974–ภูเก็ต หมายเลขข้างรถ 949-18 หน้ารถเขียนข้อความว่า “ภูเก็ตท่องเที่ยว” จอดกะพริบไฟอยู่ริมถนนเพชรเกษมช่องทางขาล่องใต้ หน้าปั๊มน้ำมันเยื้องกับป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะ มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน และอยู่ในอาการตื่นตกใจ โดยมี นายกำธร หนูทองแดง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 9 ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา คนขับรถทัวร์คันดังกล่าวยืนรอพบตำรวจอยู่
จากการตรวจสอบพบว่า ที่บานกระจกประตูด้านคนขับแตกละเอียดทั้งบาน เศษกระจกตกเกลื่อนอยู่บนเบาะนั่งคนขับ และที่พื้นวางเท้าจำนวนมาก นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อย เป็นหินแกรนิตสีเทาเข้มชนิดเดียวกับที่ใช้ทำถนนลาดยาง และรองหมอนรถไฟ ตกอยู่ในช่องวางเท้าคนขับจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายกำธร หนูทองแดง คนขับทราบว่า ได้ขับรถทัวร์คันดังกล่าวออกมาจากสถานีขนส่งสายใต้ช่วงค่ำของวันที่ 21 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคันจำนวน 48 ที่นั่ง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง จ.ภูเก็ต จนกระทั่งกลางดึกได้ขับมาถึงบริเวณทางโค้งลงเนินใกล้กับทางแยกไปสนามบินชุมพร ก่อนถึงป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะประมาณ 100 เมตร ได้มีวัตถุพุ่งมาจากถนนเลนช่องทางขาขึ้นฝั่งตรงข้าม พุ่งมากระทบถูกที่บานกระจกประตูรถด้านขวามือตรงจุดที่นั่งคนขับเข้าอย่างแรง จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน ทำให้นายกำธรคนขับตกใจจนรถเกือบเสียหลักลงข้างทาง และได้พยายามบังคับรถเข้าจอดริมถนนบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันอยู่เยื้องกับป้อมตำรวจสี่แยกท่าแซะ ใกล้กับสัญญาณไฟเขียว-แดง ส่วนผู้โดยสารตกใจตื่น และหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก และนายกำธรคนขับได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนสาเหตุจากการตรวจสอบก้อนหินซึ่งเป็นก้อนหินขนาดใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อยน้ำหักประมาณครึ่งกิโลกรัม สีเทาเข้มมีลักษณะแววเลื่อม ไม่มีฝุ่น หรือเศษดินติดเกาะอยู่เลย จึงน่าจะเป็นการที่คนร้ายแก๊งปาหินเก็บเตรียมเอาไว้ก่อเหตุโดยเฉพาะ เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งวัยรุ่นกวนเมือง หรือพวกคึกคะนอง ขับรถ จยย. หรือรถยนต์กระบะมาบนถนนเลนฝั่งตรงข้าม แล้วคนนั่งซ้อนท้าย จยย. หรือคนนั่งมาในกระบะหลังรถยนต์ เมื่อเจอรถทัวร์ขับสวนมาทางช่องทางขาล่องใต้ จึงปาก้อนหินเข้าใส่ หรืออาจจะแอบซุ่มอยู่บริเวณเกาะกลางถนนแล้วปาก้อนหินใส่รถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้ส่งชุดสายสืบออกสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมแก๊งปาหินมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ช่วงเดือนสิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์แก๊งปาหินขับรถ จยย. รถยนต์ ออกอาละวาดปาหิน ยิงหนังสติ๊กหัวนอต ใส่รถยนต์กระบะ รถเก๋ง รถทัวร์ รถบรรทุก 6 ล้อ และรถบรรทุก 10 ล้อ เกือบตลอดทั้งเดือน และลุกลามไปยังอำเภออื่นๆ ของพื้นที่ จ.ชุมพร ที่อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาได้รับความเสียหายเดือนร้อนจำนวนมาก จนประชาชนหวาดผวาไม่กล้าขับรถผ่านถนนสายดังกล่าว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องจัดรถยนต์ รถ จยย.สายตรวจ พร้อมกำลังกว่า 100 นาย ออกตรวจตราป้องกันเหตุ และให้ความมันใจแก่ประชาชนที่ต้องใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวในการสัญจรไปมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศในขณะนั้น