ยะลา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ภายในสวนยางพาราแป๊ะหลิม ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีบุคคลต้องสงสัยนำมาฝังไว้
วันนี้ (12 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 เม.ย. พ.ต.ทศพล ผ่องศรีสุข ผบ.ฉก.ยะลา 16, พ.ต.อ สุวัตต์ วงค์ไพบูลย์ ผกก.สภ.เบตง และ นายอมร ชูช่วย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ร้อย ตชด.445 เบตง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จำนวนหนึ่ง เข้าพิสูจน์ทราบภายในสวนยางพาราแป๊ะหลิม ต.เบตง อ.เบตง พิกัด QG 268391
หลังจากที่ ร.ท.เฉลิมพันธ์ ผสมเพชร ผบ.ร้อย ม.4 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบชายฉกรรจ์ 2 คน ท่าทางมีพิรุธได้นำวัตถุต้องสงสัยใส่ขวดน้ำมันพืชที่ผลิตในประเทศมาเลเซีย ขนาด 5 ลิตร นำไปฝังไว้กลางสวนยางพาราแป๊ะหลิม โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินจากถนนภายในหมู่บ้านเข้าไปในสวนยางพารา ประมาณ 500 เมตร
พบบริเวณกลางสวนยางพารามีร่องรอยคล้ายดินถูกกลบฝังใหม่ๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะในการตรวจสอบ และพบวัตถุต้องสงสัยมีส่วนประกอบของโลหะฝังอยู่ จึงได้ใช้พลั่วสนามในการขุดลึกลงไปใต้ดินประมาณ 60 ซม. พบขวดน้ำมันพืชที่ผลิตในประเทศมาเลเซีย ซึ่งภายในมีวัตถุที่มีน้ำหนักบรรจุอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำขึ้นมาจากหลุม และแกะตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในขวดน้ำมันพืชดังกล่าว และมีตะปู 2 นิ้ว ปุ๋ยยูเรีย สายไฟฟ้าต่อวงจรโผล่ออกมาพร้อมที่จะต่อกับชนวนที่ใช้ในการจุดระเบิด
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไปตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อก่อเหตุความมั่นคงว่าเป็นผู้ใด ในการขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ร.ท.เฉลิมพันธ์ ผสมเพชร ผบ.ร้อย ม.4 เปิดเผยว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งกลุ่มคนร้ายลอบนำมาฝังไว้เพื่อให้คนร้ายอีกชุดหนึ่งขุดนำไปใช้ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.เบตง และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ต้องทำจิตวิทยามวลชนอย่างหนักกับชาวบ้าน เพื่อสร้างความไว้วางใจในการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายในทุกรูปแบบ
ในปัจจุบัน ในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ประสบความสำเร็จในเชิงปฏิบัติ จนชาวบ้านให้ความร่วมมือมีการแจ้งเบาะแสเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัตถุระเบิด ของกลุ่มคนร้ายได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้สถานการณ์ร้ายในพื้นที่ลดลงตามลำดับ