สสจ.ตรังคุมเข้มสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์

ตรัง - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ร่วมคุมเข้มโครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ เผยรถจักรยานยนต์ยังครองแชมป์ตัวเลขอุบัติเหตุทางถนนสูงสุดในทุกปี

วันนี้ (12 เม.ย.) นายแพทย์วิฑูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง (สสจ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี 2553 จังหวัดตรัง มีผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน 302 คน มียานพาหนะที่ประสบอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์ 250 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 82.8 มีผู้ขับขี่ยานพาหนะแล้วดื่มแอลกอฮอล์ 80 คน มีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 106 คน และมีผู้เสียชีวิต 4 คน

ส่วนล่าสุด ในปี 2554 มีผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มเป็น 377 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ 301 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 79.8 มีผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่สวมหมวกกันน็อกแล้วดื่มแอลกอฮอล์ 72 คน และมีผู้เสียชีวิต 7 คน

ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่างๆ จึงได้ร่วมกันดำเนินมาตรการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ โดยใช้มาตรการด้านการบริหารจัดการ ให้ผู้บริหารทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เน้นหนักการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง 3 เรื่อง คือ เมาสุรา ขับรถเร็ว และไม่สวมหมวกนิรภัย

พร้อมให้ความสำคัญกลุ่มรถจักรยานยนต์เป็นหลัก มีการตรวจสอบจุดเสี่ยง จุดอันตราย และรณรงค์ให้ประชาชนมีจิตสำนึกการใช้ถนน ภายใต้โครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ รวมทั้งเตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกแห่ง รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ยังจะดำเนินการออกสุ่มตรวจผู้ประกอบการและปั๊มน้ำมัน ที่มีร้านค้าสถานที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังพบข้อมูลอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากเมาแล้วขับ ทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคล งบประมาณด้านเศรษฐกิจ และการดูแลผู้เจ็บป่วย เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับขี่ นอกจากนี้ ยังพบเยาวชนมีพฤติกรรมการดื่มในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพิ่มขึ้น 10 เท่า

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากการสุ่มตรวจของกระทรวงสาธารณสุข ได้พบผู้กระทำผิดขายสุราในสถานที่ห้ามขาย และจำหน่ายสุราในเวลาห้ามขายเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิต ได้ดำเนินการจับกุมร้านค้าที่ดังกล่าว ตามความผิด พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ไปเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จะยังคงเน้นการลงพื้นที่สุ่มตรวจและสำรวจผู้ประกอบการร้านค้า ปั๊มน้ำมัน สถานที่ห้ามขายสุรา สวนสาธารณะ เพื่อเป็นการป้องกัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเนื่องจากการดื่มสุรา โดยเฉพาะการขายสุราให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และการโฆษณาส่งเสริมการขาย (ลด แลก แจก แถม)