ยะลา - ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 ร่วมจังหวัดยะลา เริ่มจัดระบบการจราจร และควบคุมพื้นที่การค้าถนนรวมมิตร ตามมาตรการเซฟตี้โซน พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน
วันนี้ (8 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และกำลังภาคประชาชน ได้กระจายกำลังเพื่อจัดระบบการจราจร และควบคุมพื้นที่ย่านการค้าถนนรวมมิตร ซึ่งเป็นมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด หลังจากเกิดเหตุคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บ 109 ราย โดยเซฟตี้โซนถนนรวมมิตรนี้ จะจัดการจราจรออกเป็นทางเข้า 7 ช่องทาง และทางออก 8 ช่องทาง โดยยังคงให้ถนนรวมมิตรทั้งสายใช้ระบบเดินรถทางเดียวเช่นเดิม
พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 เปิดเผยว่า มาตรการเซฟตี้โซน นั้น จริงๆ แล้ว เดิมได้มีการปฏิบัติบนถนนสายรวมมิตร ซึ่งเป็นสายเศรษฐกิจ มาตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว แต่มีเหตุผลบางประการทำให้ต้องยุติการใช้ จนเหลือการบังคับในการเดินรถเพียงเส้นทางเดียว และเมื่อหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 31 มี.ค ที่ผ่านมา เซฟตี้โซน 2 ก็ถูกเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่วนราชการต่างๆ
โดยเฉพาะท่านผู้ว่าฯ ยะลา ซึ่งท่านมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนมาก จึงให้ทาง ฉก.ยะลา 11 จัดกำลังทำเซฟตี้โซนขึ้นมาใหม่ โดยครั้งนี้จะมีทางเข้า 7 ช่องทาง ทางออก 8 ช่องทาง โดยทางเข้า 7 ช่องทางนั้น จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา และ ฉก.ยะลา 11 ปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นในทางเข้า ส่วนทางออก 8 ช่องทางนั้น กำลัง อป.พร. อส.จะร่วมกันจัดกำลังดูแล ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนสายรวมมิตรเกิดเหตุซ้ำอีก
พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการนี้ จะใช้ไป 1 เดือนก่อน แล้วจะมีการประเมินว่า ประชาชนมีความพอใจในมาตรการการ รปภ.หรือไม่ และจะมีการปรับกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ช่วงแรกอาจจะไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจค้น แต่เพื่อความปลอดภัยก็ขอความร่วมมือจากประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนความมั่นใจในมาตรการนี้นั้น ในขั้นต้นก็เชื่อว่าจะป้องกันยานพาหนะ บุคคลต้องสงสัยได้ในระดับหนึ่งที่จะเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ ต่อไปก็จะมีเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งกล้องวงจรปิดเข้ามาช่วยในการตรวจค้น