จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณหน้าร้านขายข้าวมันไก่ บริเวณถนนรวมมิตรตัดกับถนนจงรักษ์ และในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 รวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 10 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน อาคารบ้านเรือน ร้านค้า รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบคัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 31 มี.ค.55 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อีก 1 ราย คือ น.ส.จุไร ลีลา อายุ 38 ปี แม่ค้าขายเสื้อร้านเลดี้แฟชั่น สาขา 2 ที่มีบาดแผลถูกสะเด็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะ ซึ่งทางคณะแพทย์ได้ทำการเปิดกะโหลกเพื่อนำเอาสะเก็ดระเบิดออก แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (3 เม.ย.)
ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อีก 1 ราย คือ น.ส.จุไร ลีลา อายุ 38 ปี แม่ค้าขายเสื้อร้านเลดี้แฟชั่น สาขา 2 ที่มีบาดแผลถูกสะเด็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะ ซึ่งทางคณะแพทย์ได้ทำการเปิดกะโหลกเพื่อนำเอาสะเก็ดระเบิดออก แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (3 เม.ย.)
ซึ่งในขณะนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด ที่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ อีกจำนวน 25 คน ซึ่ง 1 ใน 25 คน นั้น เป็นเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ชื่อ ด.ญ.ศุภาพิชญ์ คคนางพงศ์ ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเลดี้แฟชั่น สาขา 2 มีบาดแผลถูกไฟไหม้ที่บริเวณลำตัว และมีสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว แพทย์ต้องให้นอนพักรักษาตัวภายในห้องปลอดเชื้อ (BURN UNIT)
ด.ญ.ศุภาพิชญ์ คคนางค์พงศ์ (น้องไอซ์) อายุ 6 ขวบ เด็กน้อยผู้ที่รอดชีวิต แต่ต้องสูญเสียแม่นม น้าสาว และน้าชาย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์จุดที่ 1 ที่บริเวณด้านหน้าร้านขายข้าวมันไก่ ด.ญ.ศุภาพิชญ์ คคนางค์พงศ์ (น้องไอซ์), นางสมใจ ชูโลก (แม่นม,ยายใจ), นายสมัย ลีลา (น้าชาย) และนางสาวจุไร ลีลา (น้าสาว) ทั้ง 4 คน รีบปิดประตูร้านขายเสื้อผ้า (เลดี้ แฟชั่น สาขา 2) ทันที
ห่างกันประมาณ 15 นาที ได้เกิดระเบิดที่บริเวณเยื้องกับด้านหน้าร้านของตน แรงระเบิดทำให้บริเวณด้านของร้านขายเสื้อผ้า พังพินาศราบเป็นหน้ากลอง แม่นมโดนประตูเหล็กทับได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนน้าชายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที และน้าสาวโดนสะเก็ดระเบิดเจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน (และได้เสียชีวิตในเช้ามืดของวันนี้)
ส่วนน้องไอซ์ กระเด็นด้วยแรงระเบิด บริเวณร่างกายโดนไฟคลอก แต่ด้วยความที่มีสติ รีบเข้าไปช่วยแม่นมที่โดนประตูเหล็กทับ แต่ประตูเหล็กหนักยกไม้ไหว แล้วจึงคลานตัวเองออกมาจากซากร้านที่พังยับเยิน ด้วยสภาพเสื้อผ้าโดนไฟคลอกขาดเหลือแต่กางเกงใน จากนั้นได้นำเศษเสื้อผ้าที่ขาดฉีกออกมาเพื่อปิดหน้าของตัวเอง เพื่อป้องกันเขม่าควันไฟที่กำลังลุกไหม้ และเรียกหา “หวีหว่อ” ตามความหมายของเด็กน้อยนั่นคือ “หน่วยกู้ภัย” นั่นเองเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะนี้น้องไอซ์ หมอได้ทำการผ่าตัดไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อนำสะเก็ดระเบิดออกมาจากร่างกาย และสิ่งที่สกปรกที่ฝังอยู่ภายในร่างกาย ล่าสุดอาการปลอดภัย แพทย์ต้องใส่ผ้าพันทั้งตัวตั้งแต่บริเวณหน้าอกลงมาถึงเท้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และอยู่ภายในห้องปลอดเชื้อ แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านสภาพจิตใจนั้น ทุกวันนี้ยังถามหาแม่นม น้าสาว และน้าชาย อยู่ตลอดเวลา และพยายามที่จะให้แม่ของตนเอง คือ นางสาวกฤษณพร คคนางค์พงศ์ พาไปเยี่ยมน้าสาว น้าชาย และแม่นม แต่ด้วยความเป็นห่วงสภาพจิตใจของเด็กน้อย แม่ ญาติ และคนรอบข้างได้แต่บอกกับน้องไอซ์ว่า ทุกคนปลอดภัยดี
นางสาวกฤษณพร คคนางค์พงศ์ กล่าวถึงความรู้สึกผู้เป็นแม่ว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก สงสารลูก สงสารครอบครัวของยายใจ (แม่นม) ที่ต้องสูญเสียทั้งหมด นางสมใจ ชูโลก (แม่นม) นายสมัย ลีลา (น้าชาย) และนางสาวจุไร ลีลา (น้าสาว) ทั้ง 3 คน ไม่เหลืออะไรแล้วตอนนี้
ตัวเองเคยโดนระเบิดมาแล้วที่หน้าร้านของตนเอง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2554 ซึ่งตอนนั้นได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และไม่คิดว่าครั้งนี้จะโดนกับลูกสาวของตนเอง อาการสาหัสมาก เจ็บมากที่โดนไฟคลอกทั้งตัว แต่โชคดีที่น้องไอซ์คลานออกมาได้ ก็อยากให้ลูกสาวหาย และภาครัฐเข้ามาดูแลเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจ ของชาวบ้านทุกคนที่อยู่ในพื้นที่
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากเหตุคาร์บอมบ์ทั้ง 2 จุด ที่บริเวณถนนรวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 11 ราย และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน สำหรับทรัพย์สินที่เสียหาย มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายถูกเพลิงไหม้และถูกแรงระเบิด จำนวน 35 หลัง มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 11 คัน และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 18 คัน ซึ่งทาง จ.ยะลา จะได้ดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือทั้งหมดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าในคดี จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายนำรถยนต์มาจอด แล้วมีรถจักรยานยนต์มารับไป ส่วนเส้นทางของคนร้ายที่นำรถยนต์เข้ามา พบว่าผ่านมาทางมลายูบางกอก เข้ามาแยกเบอร์เส้ง ผ่านถนนสุขยางค์ ก่อนเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบจุดที่คนร้ายนำรถยนต์ไปดัดแปลงเปลี่ยนสี เพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหา
จากพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มนายสาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ พร้อมพวก อีก 2 คน ซึ่งมีความชำนาญในการประกอบระเบิด และยังเป็นผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงหลายคดีในพื้นที่ จ.ยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าก่อนก่อเหตุ ประมาณ 1 สัปดาห์ มีการประชุมวางแผนในพื้นที่บ้านไบท์ ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา