นราธิวาส - ผอ.ททท.นราธิวาส เผยเหตุคาร์บอมบ์ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ นทท.ยกเลิกการจองห้องพักแล้ว 5% วอนเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบและค้นหารถยนต์ที่นำไปประกอบระเบิด เพื่อเรียกความเชื่อมั่น
วันนี้ (3 เม.ย.) นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าวถึงเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ อ.เมือง จ.ยะลา ว่า เหตุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ใช่วงเทศกาลสงกรานต์
ซึ่งขณะนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวได้จองเข้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งในส่วนของ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา มีการโทรศัพท์ยกเลิกห้องพักแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะยังรอดูสถานการณ์ก่อน หากไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก นักท่องเที่ยวน่าจะยังคงเข้ามาเที่ยวตามปกติ
ทั้งนี้ หากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตามปกติคาดว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีเงินสะพัดกว่า 20 ล้านบาท โดยเน้นไปในพื้นที่ของ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.เบตง
นายอะหมาน หมัดอะดัม กล่าวด้วยว่า การก่อเหตุในแต่ละครั้งมักเป็นช่วงก่อนถึงเทศกาลหยุดยาว หรือเทศกาลการท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มก่อความไม่สงบเลือกที่จะทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นหลัก ดังนั้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงช่วยกันดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการตรวจสอบรถยนต์และรถจักยานยนต์ การตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมไปถึงการออกค้นหารถยนต์ที่มีการนำมาประกอบระเบิด
“ขณะเดียวกัน อยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการเองให้คอยเฝ้าระวังและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และคอยสังเกตร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุในระดับหนึ่ง” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าว
วันนี้ (3 เม.ย.) นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าวถึงเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ อ.เมือง จ.ยะลา ว่า เหตุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ใช่วงเทศกาลสงกรานต์
ซึ่งขณะนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวได้จองเข้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งในส่วนของ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา มีการโทรศัพท์ยกเลิกห้องพักแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะยังรอดูสถานการณ์ก่อน หากไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก นักท่องเที่ยวน่าจะยังคงเข้ามาเที่ยวตามปกติ
ทั้งนี้ หากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตามปกติคาดว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีเงินสะพัดกว่า 20 ล้านบาท โดยเน้นไปในพื้นที่ของ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.เบตง
นายอะหมาน หมัดอะดัม กล่าวด้วยว่า การก่อเหตุในแต่ละครั้งมักเป็นช่วงก่อนถึงเทศกาลหยุดยาว หรือเทศกาลการท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มก่อความไม่สงบเลือกที่จะทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นหลัก ดังนั้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงช่วยกันดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการตรวจสอบรถยนต์และรถจักยานยนต์ การตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมไปถึงการออกค้นหารถยนต์ที่มีการนำมาประกอบระเบิด
“ขณะเดียวกัน อยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการเองให้คอยเฝ้าระวังและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และคอยสังเกตร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุในระดับหนึ่ง” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าว