xs
xsm
sm
md
lg

สสว.หนุนพัฒนาการท่องเที่ยว เน้นนวัตกรรมสร้างมูลค่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - สสว.หนุนพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเน้นนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงตลาด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเผยพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการจากอเมซิ่งไทยแลนสู่มิราเคิลไทยแลนด์

วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมพร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินสายติวผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับคุณสินค้าและบริการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยใช้นวัตกรรมใหม่เพื่อเชื่อมโยงการตลาด โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเข้าร่วมจำนวนมาก

นายวชิระ แก้วกอ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม เปิดเผยภายหลังจากประชุมกลุ่มเฉพาะ หรือ Focus Group ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มพื้นที่ 3 ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และกลุ่มพื้นที่ 4 ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า ยุทธศาสตร์ที่เราสนับสนุนนั้นตรงกับแผนที่ สสว.ได้ดำเนินการ คือบริบทแล้วต้องเดินไปตามยุทธศาสตร์ที่ทำไว้ในแผน 5 ปี ในปี 55-59 หลังจากนั้น เรามีแผนปฏิบัติการปัจจุบันกำลังรออนุมัติจากบอร์ดบริหารของสสว. ยุทธศาสตร์ภาพใหญ่ และแผนปฏิบัติการเราจะทำตามนั้น สสว. เป็นหน่วยงานพันธมิตรกับทุกหน่วย เพื่อร่วมทำงานในบทบาทการท่องเที่ยวเป็นภารกิจที่สำคัญของประเทศ

“สสว.กำหนดไว้ว่า ต้องผลักดันการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการคิดจากร้อยละถึง 99 คิดเป็น 2.8-2.9 ล้านราย เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเยอะมาก ธุรกิจท่องเที่ยวจึงสำคัญ และขาดไม่ได้ ในตัวงบนั้นเรายังไม่ชัดเจน เราเน้นเรื่องการอบรมยุทธศาสตร์หลักก่อน ตัวเลขจึงยังไม่ชัด ช่วงนี้กำลังเปลี่ยนบอร์ด เราจึงยังรอการอนุมัติ ส่วนความตึงเครียดทางการเมืองนั้นคงไม่กระทบกับ สสว. แต่เราเป็นอิสระภายใต้อุตสาหกรรม เราต้องเดินไปตามแผนที่กำหนดไว้ การเมืองเองคงไม่มีผลมากนัก ว่าไปตามนโยบายเป็นหลัก” นายวชิระ กล่าว

ขณะที่นายศุภโชค ทรัพย์สุคนธ์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การดำเนินการของเราคือ การสร้างแบรนด์ และอิมเมจของการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เราได้ทำโครงการต่อเนื่องมา 3 ปี มีการวิจัยในการสร้างแบรนด์ และหาอัตลักษณ์ในกลุ่มพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ จริงๆ แล้วประเทศไทยมีเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อยู่แค่ 10 เมืองเท่านั้น มีนักท่องเที่ยวประมาณกว่า 1 ล้านคน แต่ในเมืองรายรอบ หรือเมืองอื่นๆ นั้น ยังไม่ได้ประโยชน์ใดๆ มากนัก ทั้งที่อยู่ร่วมกันมีอัตลักษณ์ร่วมกัน ดังนั้น เราเห็นว่าจึงควรกระจายรายได้ต่างๆ เหล่านี้ออกไปให้กว้างมากขึ้น

“นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงตลาด จึงถูกดำเนินโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างแบรนด์ อิมเมจ และแสดงถึงอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นเป็นความแตกต่าง และเป็นมูลค่าคุณค่าเฉพาะของพื้นถิ่นที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว เรารับฟังความคิดเห็น และทำมา 2 ปีแล้ว กำลังนำเข้ามาสู่การปฏิบัติจริง ขั้นตอนดำเนินการจริง ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเริ่มต้นมาตั้งแต่ “อเมซซิ่ง ไทยแลนด์” มาจนถึงปัจจุบันคือ “มิราเคิล ไทยแลนด์” เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นมานำเสนอที่ไม่สามารถหาในแหล่งอื่นๆ ได้ ซึ่งในช่วงของการพัฒนานั้นอาจจะช้าเล็กน้อย แต่วันนี้ เราสามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้แล้ว” ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าว

นายศุภโชค ทรัพย์สุคนธ์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังกล่าวถึงเรื่องของการปรับค่าแรงขั้นต่ำว่า ที่แน่ๆ นั้น ส่งผลกระทบในเรื่องของต้นทุน แต่เราต้องปรับประสิทธิภาพ ศักยภาพความสามารถของคนในการทำงาน และระบบการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ถ้ามองในมุมบวกนั้น พนักงานต้องปรับความสามารถเพิ่มขึ้นตรงกับค่าตอบแทนที่ได้ เท่ากับเป็นการเตรียมพร้อมในการสร้างศักยภาพเข้าสู่ AEC ในปี 2558 นี้ และถ้าคนมีกำลังจับจ่ายเพิ่มมากขึ้นมันต้องเป็นเงินเฟ้ออยู่แล้ว และถ้าให้มีเศรษฐกิจดีต้องให้เป็นเงินเฟ้ออ่อนๆ ถ้าไม่ให้เฟ้อเลยคงเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องปรับตัวในการสร้างประสิทธิภาพไม่ให้กระทบต่อการประกอบการ และผลักภาระไปสู่ประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น