ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กงศุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเช็กประจำ จ.ภูเก็ต เห็นด้วยตั้งคณะกรรมการพัฒนา และแก้ไขปัญการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเชิงปฏิบัติการ เชื่อทำได้เป็นเรื่องดี ชี้ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานพยายามแก้ปัญหาท่องเที่ยวทุกรูปแบบแต่ไม่สำเร็จ เหตุหน่วยงานไม่มีอำนาจเด็ดขาด จี้แก้ปัญหาต้องมีเจ้าภาพ
นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเช็ก ประจำภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่กงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำจังหวัดภูเก็ต เสนอให้จัดตั้ง “คณะกรรมการการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวจังหวัดเชิงปฏิบัติการ” ในการประชุมร่วมครั้งล่าสุด โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและการแก้ปัญหาที่สามารถปฏิบัติและหวังผลได้ว่า เห็นด้วยกับการเสนอให้จัดตั้ง “คณะกรรมการการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวจังหวัดเชิงปฏิบัติการ” หากทำได้นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน การจัดตั้งคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ดูแลเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องประกอบไปกลุ่มผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวเฉพาะจุด หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นแม้บางครั้งปัญหาจะมีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ในรายละเอียดแล้วปัญหาแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อไปว่า “ต้องยอมรับว่าทีที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ได้ดำเนินการแก้ปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวในประเด็นต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่การแก้ไขปัญหายังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การดำเนินการไม่สำเร็จนั้นมีมาหลายสาเหตุ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการไม่มีอำนาจในการดำเนินการของหน่วยงานบางหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งการแก้ปัญหาหลายๆ ปัญหาต้องอาศัยอำนาจในการจัดการ เพราะฉะนั้นในการแก้ปัญหาต่างๆหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องให้อำนาจในการดำเนินการมาด้วย
ที่สำคัญ การแก้ปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวนั้นจะต้องต้องแยกปัญหาออกมาเป็นเรื่องเฉพาะ รวมทั้งจะต้องมีเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และแท้จริงในการทำงาน เพราะเรื่องของท่องเที่ยวเป็นเรื่องใหญ่ ทำรายได้ให้แก่ประเทศปีละเป็นจำนวนมาก จึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และที่สำคัญขณะนี้ การแก้ไขปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตยังหาเจ้าภาพไม่พบ เพราะฉะนั้น การตั้งคระกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานจึงถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะมีเจ้าภาพในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนขึ้น
นายอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน และมีจำนวนเยอะมาก ซึ่งปัจจุบันที่สร้างปัญหาค่อนข้างหนัก คือ ในส่วนของผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน พยายามยัดเยียดสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างความวุ่นวาย หรือเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว แม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่สามารถสร้างผลกระทบให้แก่การท่องเที่ยวในวงกว้างได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้รังเกียจ หรือจะรังแกผู้ประกอบการรายเล็ก แต่เราต้องการให้มีการสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ โดยให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเข้าไปควบคุมดูแล อย่าไปหลอกลวง หรือเอาเปรียบ เพราะหากไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้นไม่ได้กระทบผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่ง แต่กระทบกันเป็นภาพรวม ซึ่งในการประชุมหารือระหว่างกงสุล/กงสุลกิตติมศักดิ์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมายอมรับว่า สามารถที่จะแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวไปได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ปัญหาที่เรื้อรังมานาน เช่น ปัญหาเจ็ตสกี รถตุ๊กตุ๊ก ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อไปว่า บทบาทของกงสุล/กงสุลกิตติมศักดิ์ ต่อจากนี้จะเน้นการนำเสนอและสะท้อนปัญหาในภาพรวม เพื่อทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปดำเนินการแก้ไข เช่น ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาความไม่เป็นระเบียบของชายหาด และปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขเป็นลำดับแรก คือ การจัดทำระบบขนส่งมวลชน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสาร และลดปัญหาเอารัดเอาเปรียบเรื่องค่าโดยสารไม่เป็นธรรม เนื่องจากในอีก 1-2 ปี ข้างหน้าการขยายสนามบินจะแล้วเสร็จและสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 12.5 ล้านคน เพราะเรามีเส้นทางหลักเข้าออกเมืองเพียงเส้นทางเดียว หากไม่เร่งดำเนินการก็จะยิ่งสร้างปัญหาความแออัดของการจราจร รวมถึงผลกระทบอื่นๆ ทีจะตามมา