นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ขณะออกลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อดูแลความปลอดภัย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้บุกค้นกระท่อมในพื้นที่ ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ สามารถยึดของกลางได้หลายรายการ
เมื่อเวลา 08.20 น. วันนี้ (30 มี.ค.) ร.ต.อ.นเรศ พุ่มแก้ว ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัด ร้อย ทพ.1107 กรมทหารพรานที่ 11 ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดริมถนนสายบองอ-ดุซงญอ หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.ระแงะ พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าที่เนินดินริมถนนมีหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต พร้อมทั้งเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในกล่องเหล็ก หนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลระแงะไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ 1.อส.ทพ.ประสาน แก้วเขียว อายุ 27 ปี และ 2.อส.ทพ.นันทวัฒน์ ก้อนทอง อายุ 25 ปี ซึ่งทั้ง 2 นายถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา แพทย์ได้นำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวน ส.ต.สุรชัย สิงหารุณ หัวหน้าชุด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำกำลังรวม 10 นาย เดินเท้าลาดตระเวนเส้นทางเพื่อ รปภ.เส้นทางให้แก่คณะของ พ.ท.อนุสรณ์ สวนอิน รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 ที่จะเดินทางมาเยี่ยมฐานต่างๆ ในช่วงบ่าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ลอบฝังไว้ที่เนินดินริมทางทำให้ อส.ทพ.ประสาน และ อส.ทพ.นันทวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ทหารพรานทลายรังโจรใต้ที่ระแงะ ยึดปืนและของกลางเพียบ
และเมื่อเวลา 08.00 น.วันเดียวกันนี้ พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พ.ท.บุญยัง นาจรัส รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.ท.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส ช่วยราชการ หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จ.นราธิวาส ได้ร่วมสนธิกำลังรวม 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งเป็นกระท่อมเลขที่ 107/1 บ.บาโงตา ม.1 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีนายอับดุลกาฮา เจ๊ะนะ อายุ 28 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ.บาโงตา เป็นเจ้าของ
หลังสืบทราบ และรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์ต้องสงสัยกบดานในกระท่อมหลังดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะเตรียมประชุมวางแผนเพื่อก่อเหตุป่วนในพื้นที่ และในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินเท้ากระจายกำลังเข้าโอบล้อม กลุ่มชายฉกรรจ์ในกระท่อมได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัว และมีกำลังน้อยกว่า จึงพากันวิ่งออกจากกระท่อมหนีไปในป่ารกทึบท้ายหมู่บ้านจำนวน 3 คน
และจากการเข้าตรวจค้นในกระท่อมอย่างละเอียด พบของกลางจำนวนกว่า 50 รายการ เช่น ปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุน เสื้อผ้าชุดลายพราง ผ้าห่ม รองเท้า เป้ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ลูกประคำ กระเป๋า ที่ชาร์จโทรศัพท์ เปลสนาม โทรศัพท์มือถือ เงินสด ผ้าโสร่ง หนังสือคัมภีร์ หมวกกะปิเยาะ สมุดบัญชีธนาคาร ชุดดาวะ บัตรเอทีเอ็ม และอื่นๆ อีกหลายรายการ
เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมนำไปที่กองบังคับการ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 45 อ.ระแงะ เพื่อให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝง พร้อมควบคุมตัวนายอับดุลกาฮา ผช.ผญบ.ม.1 เจ้าของกระท่อมไปสอบปากคำเครียด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาในฐานให้ที่พักพิงแก่กลุ่มโจรใต้ ส่วนผู้ที่หลบหนีการจับกุมไปได้ 3 คนซึ่งมีหมายจับ พ.ร.ก.เป็นสมาชิก RKK กลุ่มของนายอุสมาน แอสะ แกนนำสั่งการที่มีหมายจับ ป.วิอาญาหลายคดี
ล่าสุด จากการตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงสีดำ ซุกไว้ที่โคนต้นไม้ห่างกระท่อม 50 เมตร พร้อมด้วยเปลนอน 4 ผืน ถังพลาสติกสีฟ้าขนาด 50 ลิตร ที่ถูกฝังไว้เพื่อเตรียมนำอุปกรณ์ป่วนใต้มาซุกซ่อน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมเพื่อนำไปที่ ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 ทำการพิสูจน์คราบลายนิ้วมือแฝง พร้อมของกลางที่ยึดได้ก่อนหน้านี้เช่นกัน