กระบี่ - ประมงกระบี่ประกาศปิดอ่าวช่วงฤดูปลาวางไข่ 3เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 55 เพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ พร้อมกวดขันจับกุมผู้ลักลอบผู้กระทำผิด ริบเครื่องมือ
นายเจริญ โอมณี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ทำการประมงในฤดูปลามีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง รวม 4 จังหวัด เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2555 รวมระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นมา
หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวอีกว่า บริเวณที่มีการประกาศปิดอ่าว เริ่มตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถึงตะวันออกปลายแหลมหัวล้านเกาะยาวใหญ่ อ.เมือง จ.พังงา ถึงปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ถึงปลายแหลมเกาะลิบงจังหวัดตรัง ถึงเกาะสุกร ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รวมเนื้อที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,935,000 ไร่
“สำหรับเครื่องมือประมงที่ห้ามทำหารประมงในช่วงดังกล่าว มีอยู่ 3 ชนิด คือ อวนลากทุกประเภท ทุกขนาดที่ใช้ประกอบเรือกล อวนล้อมจับทุกชนิดและอวนติดตา ขนาดช่องตาเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร ยกเว้นเครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตักในเวลากลางวัน เครื่องมืออวนลากคานถ่าง ที่ใช้ประกอบเรือกล เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเข้ มีคานถ่างหรืออวนลากที่ประกอบเรือกล ซึ่งใช้เชือกเส้นใย ประดิษฐ์เป็นสายลากอวน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการริบเครื่องมือทำการประมงด้วย”
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ถูกจับก่อนที่จะได้วางไข่ นอกจากนี้ทางศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ พร้อมที่จะกวดขันเพิ่มความเข้มในการตรวจจับผู้กระทำความผิด เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ยังยืน และทุกปีเมื่อมีการประกาศปิดอ่าว ชาวประมงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะไม่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตปิดอ่าว เพราะชาวประมงทราบดีว่าผลที่ได้จากการปิดอ่าวมีประโยชน์มหาศาลต่อสัตว์น้ำและชาวประมงเอง
โดยจะมีการทำพิธีประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม 55 ณ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน โดยจะมีกิจกรรมการปล่อยสัตว์น้ำ และปล่อยเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนในพื้นที่โดยจะมีเรืออาสาสมัครของชาวประมงเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยกันดูแลการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย
นายเจริญ โอมณี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ทำการประมงในฤดูปลามีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง รวม 4 จังหวัด เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2555 รวมระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นมา
หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวอีกว่า บริเวณที่มีการประกาศปิดอ่าว เริ่มตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถึงตะวันออกปลายแหลมหัวล้านเกาะยาวใหญ่ อ.เมือง จ.พังงา ถึงปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ถึงปลายแหลมเกาะลิบงจังหวัดตรัง ถึงเกาะสุกร ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รวมเนื้อที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,935,000 ไร่
“สำหรับเครื่องมือประมงที่ห้ามทำหารประมงในช่วงดังกล่าว มีอยู่ 3 ชนิด คือ อวนลากทุกประเภท ทุกขนาดที่ใช้ประกอบเรือกล อวนล้อมจับทุกชนิดและอวนติดตา ขนาดช่องตาเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร ยกเว้นเครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตักในเวลากลางวัน เครื่องมืออวนลากคานถ่าง ที่ใช้ประกอบเรือกล เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเข้ มีคานถ่างหรืออวนลากที่ประกอบเรือกล ซึ่งใช้เชือกเส้นใย ประดิษฐ์เป็นสายลากอวน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการริบเครื่องมือทำการประมงด้วย”
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ถูกจับก่อนที่จะได้วางไข่ นอกจากนี้ทางศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ พร้อมที่จะกวดขันเพิ่มความเข้มในการตรวจจับผู้กระทำความผิด เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ยังยืน และทุกปีเมื่อมีการประกาศปิดอ่าว ชาวประมงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะไม่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตปิดอ่าว เพราะชาวประมงทราบดีว่าผลที่ได้จากการปิดอ่าวมีประโยชน์มหาศาลต่อสัตว์น้ำและชาวประมงเอง
โดยจะมีการทำพิธีประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม 55 ณ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน โดยจะมีกิจกรรมการปล่อยสัตว์น้ำ และปล่อยเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนในพื้นที่โดยจะมีเรืออาสาสมัครของชาวประมงเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยกันดูแลการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย