หวิดตายหมู่เรือหางยาวขนต่างด้าวหนีเข้าเมืองรั่วกลางทะเลที่ระนอง

ระนอง - หวิดตายหมู่เรือหางยาวลักลอบขนผู้หลบหนีเข้าเมืองต่างด้าวชาวพม่า เกิดรั่วกลางทะเลอันดามัน ทหารเรือส่งชุดปฎิบัติการพิเศษเข้าช่วยเหลือได้ทัน 52 คน

วันนี้ (25 มี.ค.) นาวาเอกเคารพ แหลมคม ผู้บังคับการหมู่เรือเฉพาะกิจ ปฎิบัติการชายแดนทางทะเลพื้นที่ บี ว่า หน่วยปฎิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่451 นำผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 52 คน ไปขึ้นฝั่งที่เทียบท่าเทียบเรือแพธงไทยดี บ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง

สำหรับสาเหตุที่ต้องนำแรงงานต่างด้าวกลับเข้าฝั่งในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (25 มี.ค.) พลเรือโท ชราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับรายงานว่ามีเรือต้องสงสัยแล่นเข้าในน่านน้ำราชอาณาจักรไทย บริเวณเกาะช้าง ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง จึงสั่งการให้ นาวาโท รุ่ง จรัสกุล ผู้บังคับหน่วยปฎิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 451 พร้อมกำลังพลหน่วยปฎิบัติการพิเศษเข้าทำการตรวจสอบ บริเวณ ด้านทิศตะวันตกของเกาะช้าง จังหวัดระนอง กลางทะเลอันดามัน จนพบกลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมือง กำลังนำเรือเข้าฝั่งที่เกาะช้าง เนื่องจากเรือหางยาวขนาดใหญ่ที่ลักลอบนำพา เกิดเรือรั่วไม่สามารถแล่นต่อกลางทะเลได้ กำลังทหารเรือจึงเข้าช่วยเหลือและควบคุมตัวไว้ได้รวม 52 คน เป็นชาย 33 คน ผู้หญิง 19 คน และเด็ก 3 คน

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มนี้ เดินทาง มาจากเมืองมะละแหม่ง และเมืองทะวาย เสียค่าใช้จ่ายเข้าประเทศไทย คนละ 20,000 บาท ใช้เวลาเดินทางจากต้นทางมาเป็นเวลา 2 วัน และมาพักที่ จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ก่อนเดินทางโดยทางเรือเข้าไทยจ่ายอีกคนละ 1,500 บาท ก่อนเรือจะรั่วคนขับเรือจึงพยายามขับเข้าฝั่งก่อนที่เรือจะจมสู่ก้นทะเล จึงถูกควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป