นราธิวาส - รอง ผอ.รมน.ภาค 4 และเพื่อนทหาร กรมทหารพรานที่ 48 ร่วมส่งศพ อส.ทพ.สมชาย ทำจุน กลับบ้านเกิด อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช อย่างสมเกียรติ เผยเป็นเจ้าหน้าที่รายแรกในสังกัดที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นราธิวาส
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พล.ต.เบญจรงค์ เจริญพร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ อส.ทพ.สมชาย ทำจุน อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัดพลปืนเล็ก กองร้อย ทพ.ที่ 4807 กรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางและได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบริเวณสะพานรางรถไฟในพื้นที่ ม.9 บ.บือราแง ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้
โดยในพิธีมีนายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.อ.ภูมินทร์ ชุมช่วย ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมกันนี้ในพิธี พล.ต.เบญจรงค์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ได้มอบเงินช่วยเหลือของกองทัพภาคที่ 4 และเหรียญบางระจัน แก่ทายาทของ อส.ทพ.สมชาย ทำจุน โดยมีนางชีพ ทำจุน มารดาและ น.ส.สุดาวรรณ กายโรจน์ อายุ 31 ปี ภรรยาเป็นตัวแทนรับมอบ
นอกจากนี้ ทางจังหวัดนราธิวาสได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบด้วยจำนวน 200,000 บาท และมีเงินช่วยเหลือจากกรมทหารพรานและหน่วยงานอื่นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัว
สำหรับ อส.ทพ.สมชาย ทำจุน แต่งงานกับ น.ส.สุดาวรรณ กายโรจน์ ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ ด.ช.ศุภกร ทำจุน อายุ 5 ขวบ ปัจจุบันอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดแพร่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
จากนั้นในเวลา 12.30 น.ได้มีพิธีเคลื่อนศพเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช โดยจัดพิธีส่งศพที่สนามกีฬาจังหวัดนราธิวาสอย่างสมเกียรติมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองร่วมในพิธีพร้อมทั้งมีกองทหารเกียรติยศร่วมในพิธีส่งศพขึ้นเฮลิคอปเตอร์ด้วย
ด้าน พ.อ.ภูมินทร์ ชุมช่วย ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 48 กล่าวว่า กรมทหารพรานที่ 48 จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ของ อ.เจาะไอร้อง และ อ.สุไหงปาดี อย่างเต็มตัวในวันที่ 1 เมษายนนี้โดยขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่บางส่วนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก่อน ซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นรายแรกของกรมทหารพรานที่ 48 ที่มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นราธิวาส แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทหารพรานทุกนายที่อยู่ในสังกัดทหารพรานที่ 48 ยังคงมีขวัญและกำลังใจดีอยู่ เพราะทุกนายอาสาที่จะเข้ามารับใช้ประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย
ส่วนการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นขณะนี้มีการเน้นการทำงานด้านการข่าวมากขึ้น โดยมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ซึ่งคาดผู้ก่อเหตุในครั้งนี้อาจจะมีบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว