ผวจ.ระนอง ขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบโครงการจังหวัดระนอง

ระนอง - ผู้ว่าราชจังหวัดระนอง ขอบคุณคณะรัฐมนตรีแทนชาวระนอง ในความเห็นชอบทุกโครงการที่จังหวัดระนองเสนอ ด้านประธานหอการค้า เชื่อมั่นว่า จะได้รับประโยชน์ทั้งด้านอุตสาหกรรมอาหารทะเล ท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการคมนาคมขนส่ง

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ในนามตัวแทนชาวระนองต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ที่ได้เห็นชอบในหลักการโครงการของจังหวัดระนองทุกโครงการที่เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 ซึ่งจะเกิดผลดีต่อพี่น้องประชาชนในภาคใต้และประเทศชาติโดยส่วนรวม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง

ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า สำหรับโครงการที่ ครม.ให้ความเห็นชอบรวม 11 โครงการ รวมงบประมาณ 3,990 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา อุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน, โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพยาม, โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของสถาบันเกษตรกร, โครงการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากอุทกภัย, จัดระบบป้องกันและการสื่อสารเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน,

โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำกระบุรี, ส่งเสริมและเพิ่มพูนรายได้เศรษฐกิจชุมชนโดยการจัดสร้างลานปาล์มชุมชน, โครงการส่งเสริมศักยภาพกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้านปศุสัตว์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล, โครงการลานกีฬาต้านยาเสพติดและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน, โครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมาย 4 สายชุมพร-ระนอง เป็น 4 ช่องจราจร,

โครงการปรับปรุงมาตรฐานท่าเทียบเรือ ประมงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เสนอในนามกลุ่มจังหวัดอีก 1 โครงการ คือ โครงการบริหารจัดการน้ำรองรับการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน จ.ระนอง จำนวน 20 ล้านบาท

ขณะที่ นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจกับชาวจังหวัดระนอง ที่รัฐบาลเห็นความสำคัญของการพัฒนาจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพราะกว่า 10 ปีแล้วที่จังหวัดระนอง เสียโอกาสในการพัฒนา โดยเฉพาะโครงการขยายถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงหมายเลข 4 เป็น 4 ช่องจราจรจาก จ.ชุมพร-ระนอง-พังงา-ตรัง และโครงการโครงข่ายรถไฟสายอันดามัน ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีด้วยความจริงใจ

เมื่อโครงการต่างๆ ที่ ครม.ให้ความเห็นชอบในครั้งนี้มีความชัดเจน เชื่อมั่นว่า จังหวัดระนองได้รับผลประโยชน์โดยตรง จะมีนักลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเล อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการคมนาคมขนส่ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี 2558 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดระนอง ในฐานะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขต 10 (ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี) เปิดเผยว่า โครงการต่างๆ ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.สัญจรในครั้งนี้ ถือเป็นผลมาจากการรวมพลังเป็นเนื้อเดียวกันของภาคเอกชนทุกองค์ในภาคใต้ ที่ทำให้ภาครัฐเห็นถึงความต้องการ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะส่งผลดีต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม