xs
xsm
sm
md
lg

มาลดความเร็วในการดำเนินชีวิตกันเถิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุทัย ดุลยเกษม
อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

ในรอบเดือนสองเดือนปีที่ผ่านมานี้ (ตุลาคม และพฤศจิกายน 2554) คนไทยในหลายจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและกรุงเทพฯ ต่างก็ได้รับทุกข์อันเกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง รวดเร็วและคงสภาพนานวันอีกด้วย

ความทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นมิได้เกิดจากการสูญเสียทรัพย์สิน หรือการเสียชีวิตของญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่ไม่มีการสูญเสียทรัพย์สินใดๆ ก็ยังมีความทุกข์ และความทุกข์ประการหลังนี้แหละที่ผมอยากพูดถึง เพราะผมรู้สึกว่าคนจำนวนมากโดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมืองหรือคนที่มีฐานะทางสังคมเศรษฐกิจค่อนข้างดีในเมือง
 
กลุ่มคนเหล่านี้มีวิถีชีวิตที่พึ่งพากับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายทั้งที่เป็นเจ้าของสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นและที่มิได้เป็นเจ้าของสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นแต่ก็ต้องพึ่งพาอยู่เป็นประจำในการดำเนินชีวิต เช่น รถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ เครื่องซักผ้า ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน เตาแก๊สหุงต้ม ร้านอาหารตามสั่ง ฯลฯ ฯลฯ

ลองพิจารณาถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ดูให้ถี่ถ้วนเถิด แล้วเราจะเห็นว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่และที่เราพอใจกับมันและ “ติด” กับมันนั้น มิใช่เพราะเป็นเพียงเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจของเราเท่านั้น แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกกว่านั้น คือ การช่วยลดเวลา ทำให้เราทำอะไรต่างๆ ได้เร็วขึ้น

กล่าวโดยสรุปก็คือ เราพอใจกับสิ่งที่เรียกว่า “ความเร็ว” ในการดำเนินชีวิตของเรา เราจะรู้สึกทนไม่ค่อยได้กับความ “ช้า” เช่น เราจะรู้สึกหงุดหงิดเวลารถติด เราจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องยืนเข้าคิวซื้อสินค้า เราจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องยืนรอรถแท๊กซี่นานหน่อย เราจะไม่ชอบกับการเดินทางด้วยวิธีการที่ต้องใช้เวลานาน ความรู้สึกติดกับความเร็วนี้พัฒนาไปไกลกว่านี้อีก เช่น เราต้องการรวยเร็ว เราต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งเร็ว เราต้องการเรียนหนังสือให้จบเร็ว เป็นต้น โดยที่เราไม่เคยให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นๆ ไม่ว่าการได้สิ่งต่างๆ มาด้วยความ “เร็ว” นั้นจะก่อปัญหาให้กับคนอื่นหรือก่อปัญหาให้กับสังคมหรือระบบนิเวศก็ตาม

ผมคิดว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ “ความเร็ว” ในการดำเนินชีวิตของคนขั้นกลางในเมืองลดลงอย่างมาก เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้จึงรู้สึกหงุดหงิดและมีความทุกข์

ผมคิดว่า แม้น้ำละลดลงหรือเหือดแห้งหายไป แต่ถ้าเรายัง “ติด” กับคติเรื่องความเร็ว ชีวิตเราจะหาความสุขที่แท้จริงได้ยากครับ เพราะแม้น้ำจะไม่ท่วม แต่ในสังคมของเรายังมีปัญหาต่างๆอีกมากมายที่ทำให้ “ความเร็ว” ในการกระทำการต่างๆลดลง เช่น การให้บริการในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจะช้าลงเพราะมีประชากรมากขึ้น การหางานทำหลังสำเร็จการศึกษาได้ช้าลง การเดินทางในเมืองใหญ่จะมีรถติดมากขึ้น เป็นต้น

เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าถ้าเราไม่คิดพิเคราะห์และไตร่ตรองกันอย่างจริงจังว่า การดำเนินชีวิตของเราจะ “เร่งรีบ” ไปทำไม เราต้องการทำอะไรต่อมิอะไรด้วยความเร็วเพื่ออะไร เมื่อเราทำอะไรได้เร็วๆ แล้ว เรามีความสุขจริงละหรือ เรากินอาหารที่เรียกว่า Fast Food (ที่บางคนแปลว่า แดกด่วน) แล้วเรามีความสุขจริงหรือ

ผมคิดว่าถ้าเราต้องการมีความสุขอย่างแท้จริง มีความสุขที่ถาวร มีความสุขที่ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง ผมขอให้เรามาลดความเร็วในการดำเนินชีวิตประจำวันกันเถิด แล้วความสุขที่เราอยากได้จะกลับมาหาเราเองครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น