ระนอง - กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ ทหารบก ทหารเรือ และป่าไม้ กว่า 20 นาย ตรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพยาม จ.ระนอง มีความเสียหายร่วมสิบล้าน หลังทหารเข้ายึดพื้นที่ซึ่งนายทุนเตรียมทำรีสอร์ท แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับ พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี, นาวาเอกเคารพ แหลมคม ผู้บังคับการหมู่เรือเฉพาะกิจ ปฏิบัติการชายแดนทางทะเลพื้นที่บี, นายโสภณ ชูชาติ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.8 บ่อน้ำร้อน สนธิกำลังพลกว่า 20 นาย ลงเรือตรวจการณ์ของทัพเรือภาคที่ 3 จากท่าเทียบเรือศุลกากรระนอง ไปตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพยาม บริเวณอ่าวไผ่ หมู่1 ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง ที่ถูกนายทุนบุกรุกแผ้วถาง จำนวนกว่า 23 ไร่ และตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่าโดยรอบของเกาะพยาม
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้ให้ความความสำคัญกับคดีบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพราะถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของชาติ ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องหลังจากที่หน่วยงานทหารบก ทหารเรือและป่าไม้ ได้เข้ามาดำเนินการยึดคืนพื้นที่มาก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด จากการประเมินทำให้รัฐเสียหายมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอ จะร่วมติดตามเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่นี้ถูกบุกรุกด้านหน้าอยู่ติดกับหาดทรายทะเลอันดามัน ด้านหลังลาดชันตามแนวภูเขาซึ่งดูแล้วสวยงามมาก สามารถมองเห็นทะเลอันดามันอย่างชัดเจน โดยผู้บุกรุกไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพื่อก่อสร้างรีสอร์ทไว้รองรับนักท่องเที่ยว และหากซื้อขายเปลี่ยนมือจะมีมูลค่านับหลายสิบล้านบาท ซึ่งพื้นที่บางส่วนเจ้าหน้าที่เคยตรวจยึดไว้แล้วเมื่อปี 2553 ส่วนในรอบปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดคืนป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพยาม ได้ 3 แปลง รวมพื้นที่ กว่า 60 ไร่