ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองหาดใหญ่เมื่อนักตกปลาใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สามารถตกปลาบึกยักษ์น้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ได้เป็นครั้งแรกในคลองอู่ตะเภาหลังเฝ้ารอมานานนับเดือนจนสำเร็จ ก่อนนำไปชำแหละขายกิโลกรัมละ250 บาท ชาวบ้านต่างแย่งซื้อได้เงินกว่า 12,000 บาท ขณะที่เซียนตกปลาที่สามารถตกปลาบึกตัวนี้ได้ถ่อมตนไม่ยอมเผยตัว
วันนี้ (29 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนักตกปลารายหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในทีมตกปลาที่สามารถตกปลาบึกตัวนี้ ได้พร้อมกับโชว์คลิปและภาพถ่ายยืนยันว่าสามารถตกปลาบึกยักษ์ได้จริง โดยเป็นปลาบึกขนาดใหญ่และใหญ่กว่าคนปกติเมื่อนอนเทียบกัน ความยาว 190 เซนติเมตร ลำตัวกว้าง 50 เซนติเมตร อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ส่วนผู้ที่ตกปลาตัวนี้ได้ทราบเพียงชื่อเล่นว่า สิทธิ์ อาศัยอยู่ในย่านถนนพลพิชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ แต่ไม่ขอเผยตัว โดยจับได้เมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบริเวณคลองอู่ตะเภาใกล้กับประตูระบายน้ำคลองอู่ตะเภา หลังจากที่เฝ้ารอมานานนับเดือน
นักตกปลารายนี้เผยว่า ก่อนหน้านี้ นักตกปลาส่วนใหญ่จะตกได้ปลาบึกขนาดเล็กน้ำหนัก 10-50 กิโลกรัม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สามารถตกได้ขนาดใหญ่ที่สุดน้ำหนัก 120 กิโลกรัมเท่าที่เคยตกมาในคลองอู่ตะเภา โดยใช้เบ็ดเบอร์ 16 และต้องใช้เวลาเย่อปลาตลอดทั้งคืนกว่าที่จะนำปลาบึกตัวนี้ขึ้นจากน้ำได้และต้องใช้แรงคน 3-4 คน และยังมีปลาบึกขนาดเดียวกันอีกหลายตัวที่อาศัยอยู่ในคลองอู่ตะเภาตั้งแต่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จนถึงประตูรายน้ำคลองอู่ตะเภา
“หลังจากที่จับปลาบึกยักษ์ตัวนี้ได้จึงได้แจ้งไปยังประมงจังหวัดเพื่อให้นำปลาตัวนี้ไปศึกษาและขยายพันธุ์แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ลงมาดู จึงได้นำออกไปเร่ขายตามร้านเลี้ยงปลาและร้านอาหารต่างๆในราคา 20,000 บาท แต่ก็ไม่มีใครกล้าซื้อไว้ เพราะใหญ่เกินไป สุดท้ายปลาตัวนี้ได้ตายลง จึงจำเป็นต้องชำแหละขายในกิโลกรัมละ 250 บาท และชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างแย่งกันซื้อได้เงินมา 12,000 บาท”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ข่าวการจับปลาบึกยักษ์แพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีนักตกปลาทั้งในพื้นที่อ.หาดใหญ่ และอำเภอใกล้เคียงเดินทางมาปักหลักตกปลาตลอดแนวลำคลองอู่ตะเภากันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำคลองอู่ตะเภา เพื่อหวังที่จะตกปลาบึกยักษ์ที่ยังคงพบเห็นลอยคอขึ้นมาหายใจเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปลาบึกนั้นส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแม่น้ำโขง แต่ที่พบในคลองอู่ตะเภา คาดว่า น่าจะมาจากการที่ประมงจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาปล่อยไว้ในคลองอู่ตะเภา และสภาพแวดล้อมเหมาะต่อการเจริญเติบโตของปลาบึกจึงมีขนาดใหญ่เหมือนกับที่จับได้ในแม่น้ำโขง
