ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หัวหน้าพรรคยางพาราไทย จวก “เต้น” ขึ้นเป็น “ไพร่” เป็นผู้นำมีความกล้า แต่พอเป็น “อำมาตย์” เสือกลายเป็นแมว แก้ปัญหาราคายางพาราล้มเหลว โว หาก ยท.เป็นรัฐบาลยางไทยต้องราคาไม่ต่ำกว่า กก.150 บาท
นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยท.) เปิดเผยว่า สถานะยางพาราไทย ขณะนี้มีปัจจัยบวกหลายตัวที่จะทำให้ราคาขยับขึ้น เช่น น้ำมัน ทองคำ เงินบาท และสต๊อกยางพารา แต่ผู้บริหารยางพาราไทย กลับทำให้ราคาขยับขึ้นไม่ได้ ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ กก.ละ 110 บาท ทั้งๆ ที่ราคาน่าจะเขยิบขึ้น กก.ละ 150 บาท ตนเห็นว่าผู้บริหารที่เกี่ยวกับยางพาราไม่มีความความสามารถ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เต็มไปด้วยพวกวัชพืช
“โดยเฉพาะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบเรื่องยางพารา ไม่มีความสามารถ เพียงแต่คิดว่าจะเป็นเซลล์ขายยางเอง เพียงแต่คิดผิดแล้ว น่าเสียดายตอนเป็นไพร่เป็นผู้นำผู้กล้าหาญ แต่พอเข้าสู่อำมาตย์กลับหงอย จากเสือมาเป็นแมว หมดท่าความกล้าหาญในการแก้ไขปัญหา”
นายเพิก กล่าวว่า คนวงในกระทรวงเกษตรฯ เต็มไปด้วยพวกวัชพืช ผู้นำเกษตรยางพาราจอมปลอม จึงต้องเรียกผู้อยู่กับยางพาราตัวจริง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาร่วมหารือปรึกษา หากพรรคยางพาราไทย ได้บริหารเกี่ยวกับกิจการยาง ขอยืนยัน ราคายางขายได้ กก.ละ 150 บาท ทำไม่ได้ก็ให้พรรคยางพาราไทยสูญพันธุ์ไปเลย
“ที่เอาเงิน 15,000 ล้านบาท มาดำเนินการเพื่อให้ราคายางมีเสถียรภาพและขยับสูงขึ้น ขณะนี้ต่างชาติกลับรู้เท่าทันหมดแล้ว ก็ทำการทุบราคายางพาราขึ้นลงวันต่อวันทุกวัน เพราะที่ผ่านมาคนของรัฐบาล ได้ไปทำเอ็มโอยูไว้กับต่างประเทศถึง 480,000 ตัน ที่ราคา กก.ละ 105 บาทแต่วันนี้สถานะความจริงยางพาราอยู่ที่ กก.ละ 150 บาท”
นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยท.) เปิดเผยว่า สถานะยางพาราไทย ขณะนี้มีปัจจัยบวกหลายตัวที่จะทำให้ราคาขยับขึ้น เช่น น้ำมัน ทองคำ เงินบาท และสต๊อกยางพารา แต่ผู้บริหารยางพาราไทย กลับทำให้ราคาขยับขึ้นไม่ได้ ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ กก.ละ 110 บาท ทั้งๆ ที่ราคาน่าจะเขยิบขึ้น กก.ละ 150 บาท ตนเห็นว่าผู้บริหารที่เกี่ยวกับยางพาราไม่มีความความสามารถ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เต็มไปด้วยพวกวัชพืช
“โดยเฉพาะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบเรื่องยางพารา ไม่มีความสามารถ เพียงแต่คิดว่าจะเป็นเซลล์ขายยางเอง เพียงแต่คิดผิดแล้ว น่าเสียดายตอนเป็นไพร่เป็นผู้นำผู้กล้าหาญ แต่พอเข้าสู่อำมาตย์กลับหงอย จากเสือมาเป็นแมว หมดท่าความกล้าหาญในการแก้ไขปัญหา”
นายเพิก กล่าวว่า คนวงในกระทรวงเกษตรฯ เต็มไปด้วยพวกวัชพืช ผู้นำเกษตรยางพาราจอมปลอม จึงต้องเรียกผู้อยู่กับยางพาราตัวจริง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาร่วมหารือปรึกษา หากพรรคยางพาราไทย ได้บริหารเกี่ยวกับกิจการยาง ขอยืนยัน ราคายางขายได้ กก.ละ 150 บาท ทำไม่ได้ก็ให้พรรคยางพาราไทยสูญพันธุ์ไปเลย
“ที่เอาเงิน 15,000 ล้านบาท มาดำเนินการเพื่อให้ราคายางมีเสถียรภาพและขยับสูงขึ้น ขณะนี้ต่างชาติกลับรู้เท่าทันหมดแล้ว ก็ทำการทุบราคายางพาราขึ้นลงวันต่อวันทุกวัน เพราะที่ผ่านมาคนของรัฐบาล ได้ไปทำเอ็มโอยูไว้กับต่างประเทศถึง 480,000 ตัน ที่ราคา กก.ละ 105 บาทแต่วันนี้สถานะความจริงยางพาราอยู่ที่ กก.ละ 150 บาท”