นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านบุกล้อมกุฏิในวัดดังใน อ.หัวไทร ตั้งแต่กลางดึก หลังพบพฤติกรรมหญิงหม้ายหน้าตาดีแอบเข้าวัดเป็นประจำ สุดท้ายงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อพบว่ารักษาการเจ้าอาวาสนักพัฒนาที่ได้รับการยอมรับและเลื่อมใส กลับทำผิดเสียเอง ดีที่ยอมรับและยอมสึกเองแต่โดยดี
วันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 02.30 น. ด.ต.วรวิทย์ คำคลาย ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ม.12 ต.หัวไทร อ.หัวไทร ว่ามีพระภิกษุมั่วกามอยู่กับสีกาภายในกุฏิวัดแห่งหนึ่ง จึงมีการประสานงานกับกรรมการวัด เข้าทำการปิดล้อมกุฏิด้วยความเงียบ และเมื่อไปแอบฟังเสียงดูพบว่าภายในกุฏินั้น มีเสียงเหมือนคู่รักพลอดรักหยอกล้อกระหนุงกระหนิง
ส่วนหน้ากุฏิดังกล่าวมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน หลังจากมั่นใจว่า ชายที่กำลังพลอดรักกับหญิงในกุฏิดังกล่าวนั้นเป็นพระภิกษุภายในวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจึงตัดสินใจเคาะประตู หลังจากนั้น เมื่อผู้ที่อยู่ภายในเปิดประตูออกมาชาวบ้านถึงกับตกตะลึง เมื่อพบว่าพระสงฆ์รูปดังกล่าวนั้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดนั่นเอง คือ “พระบุญลือ อทินนโท” อายุ 50 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่12 ม.12 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ส่วนหญิงที่อยู่ภายใน คือ นางสายชล อุ่นสอน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 ม.8 ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดท่ามกลางชาวบ้านที่ทยอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พบว่า ภายในกุฏินั้นยังมีขวดเหล้านอก ซึ่งดื่มหมดแล้วหลายขวด
ขณะที่พระบุญลือและนางสายชลอยู่ในสภาพหน้าซีดเผือดหลังจากความแตก เนื่องจากถูกชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ และกรรมการวัด จับได้คาหนังคาเขา ส่วนชาวบ้านที่มาร่วมปิดล้อมกุฏิต่างคิดไม่ถึงว่าพระรูปดังกล่าวนั้นจะเป็นพระบุญลือ เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่าปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และเป็นพระนักพัฒนา เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านทั้งตำบล
ต่อมาหลังจากถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน พระบุญลือจึงจำยอมรับสภาพ โดยได้ปลงจีวรลาสิกขาด้วยตัวเอง และนำตัวทั้ง 2 เข้าพบ พ.ต.ท.เจียร ชูหนู พนักงานสอบสวนสภ.หัวไทร ทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และรับสารภาพว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง โดยฝ่ายหญิงนั้นเป็นแม่หม้าย ทำธุรกิจส่วนตัวในตลาด อ.หัวไทร มาทำบุญที่วัดประจำ แล้วได้กระทำในสิ่งผิดศีลธรรม วินัยสงฆ์จนชาวบ้านเข้าปิดล้อมตรวจสอบดังกล่าว
พ.ต.ท.เจียร ชูหนู พนักงานสอบสวนเวร สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในช่วงแรกชาวบ้านไม่คิดว่าพระภิกษุที่แอบมั่วสีกาจะเป็นรักษาการเจ้าอาวาส แต่ได้เห็นพฤติกรรมของฝ่ายหญิงซึ่งเป็นหม้ายสาวใหญ่ที่จัดว่าหน้าตาสวยคนหนึ่ง โดยแอบเข้ามาภายในวัดกลางดึกกลางดื่นอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงวางแผนทำการปิดล้อมเพื่อพิสูจน์ว่า พระรายนี้เป็นเป็นใคร กระทั่งพบเห็นตำตาว่าเป็นรักษาการเจ้าอาวาสถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านและกรรมการวัดสงสัยมานานแล้วว่า พระรูปใดแอบมั่วสีกา เนื่องจากมีการเข้าออกวัดอย่างผิดปกติในช่วงดึกๆ ต่อมาจึงทำการติดตามและเข้าปิดล้อมจนพบว่าเป็นพระบุญลือนั่นเอง แต่หลังโดนจับได้พระบุญลือ ไม่ได้ขัดขืนอะไร และยอมรับสภาพแต่โดยดี หลังจากนั้นทั้งพระบุญลือหรือนายบุญลือและนางสายชลก็เดินทางมาให้ปากคำเพื่อบักทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.หัวไทร ก่อนจะมีการปล่อยตัวไปเนื่องจากเป็นการผิดวินัยสงฆ์ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย” พ.ต.ท.เจียร กล่าว