นราธิวาส - กองกำลัง 3 ฝ่าย สนธิกำลังเฝ้าระวังแนวตะเข็บชายแดนสกัดคนร้ายกลุ่มก่อความไม่สงบ และสิ่งผิดกฎหมาย ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (27 ก.พ.) พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 พร้อมด้วย พ.ต.ไพศาล พิศาลยุทนาพงษ์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 35 สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางตะเข็บแนวชายแดน ที่เป็นด่านถาวรจำนวน 3 จุดในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส คือ ด่านบูเก๊ะตา ด่านโล๊ะจูด และด่านไม้ฝาด ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออกกับประเทศมาเลเซีย รวมทั้งด่านลอยกว่า 5 จุด เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยโดยเฉพาะผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา และ พ.ร.ก.คดีความมั่นคงใน 3 จชต.ที่อาจใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อแฝงตัวหลบหนีการจับกุมออกนอกประเทศ
โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ติดป้ายทะเบียนทั้งไทยและมาเลย์ รวมทั้งตรวจสอบเลข 13 หลักของบัตรประชาชนผู้ที่เดินทางเข้าออกเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มก่อความไม่สงบรวมทั้งสิ่งของผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด สินค้าหนีภาษีและน้ำมันเถื่อนไม่ให้ทะลักข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องมือเฝ้าตรวจชายแดนของหน่วยข่าวกรองทางทหารทำการติดตั้งตามด่านตรวจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ชัดเจนมากขึ้น
โดยปฏิบัติการเชิงรุกเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 3 ผลัดๆ ละ 12 นาย ทำให้ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางน้ำมันเถื่อนจำนวน 400 ลิตรที่ผ่านด่านตรวจ อ.แว้ง เพื่อมุ่งหน้า อ.สุคิริน รวมทั้งที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหา พรก.ที่พยายามหลบหนีผ่านด่านลอยได้เป็นจำนวนหลายราย
ขณะที่ พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้สนธิกำลังตั้งด่านตรวจถาวรและด่านลอยจำนวนหลายจุดเช่นกัน โดยเน้นเส้นทางผ่านเข้าออกสู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมต่อการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งจุดตรวจน้ำตกที่เป็นจุดตรวจถาวรและจุดตรวจยุทธวิธีที่เป็นด่านลอย บริเวณหน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกและ 4 แยกโรงแรมแกรนด์ การ์เด้นท์ โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวมาเลย์
เนื่องจากทุกคนเล็งเห็นว่าเป็นการป้องปรามการเข้ามาก่อเหตุความรุนแรงของผู้ไม่หวังดีในย่านเศรษฐกิจการค้าของ อ.สุไหงโก-ลก และเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับการจัดงาน โก-ลก แกรนด์เซล ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์ซ้ำรอยเหมือนที่ 4 แยกโรงแรมเมอร์ลิน เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 ราย และส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจการค้า อ.สุไหงโก-ลกเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ตามแนวตะเข็บชายแดนตั้งแต่เขต อ.ตากใบจรด อ.สุคิริน จ.นราธิวาสที่รวมระยะทางกว่า 150 กม.เพื่อเป็นการสนองนโยบายของ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ต้องการสกัดกั้นการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายที่เป็นชนวนของการนำเงินไปสนับสนุนการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต.แบบยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและมาเลเซียได้จัดชุดเดินเท้าลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เนื่องจากล่าสุดหน่วยข่าวกรองของ 2 ประเทศได้รายงานถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่มีการขนย้ายวัตถุระเบิดจำนวนหลายลูกข้ามพรมแดนมายังฝั่งไทย เพื่อเตรียมใช้ก่อวินาศกรรมทำลายภาพลักษณ์และธุรกิจการค้าใน 3 จชต.ให้ซบเซามากยิ่งขึ้น
วันนี้ (27 ก.พ.) พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 พร้อมด้วย พ.ต.ไพศาล พิศาลยุทนาพงษ์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 35 สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางตะเข็บแนวชายแดน ที่เป็นด่านถาวรจำนวน 3 จุดในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส คือ ด่านบูเก๊ะตา ด่านโล๊ะจูด และด่านไม้ฝาด ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออกกับประเทศมาเลเซีย รวมทั้งด่านลอยกว่า 5 จุด เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยโดยเฉพาะผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา และ พ.ร.ก.คดีความมั่นคงใน 3 จชต.ที่อาจใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อแฝงตัวหลบหนีการจับกุมออกนอกประเทศ
โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ติดป้ายทะเบียนทั้งไทยและมาเลย์ รวมทั้งตรวจสอบเลข 13 หลักของบัตรประชาชนผู้ที่เดินทางเข้าออกเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มก่อความไม่สงบรวมทั้งสิ่งของผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด สินค้าหนีภาษีและน้ำมันเถื่อนไม่ให้ทะลักข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องมือเฝ้าตรวจชายแดนของหน่วยข่าวกรองทางทหารทำการติดตั้งตามด่านตรวจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ชัดเจนมากขึ้น
โดยปฏิบัติการเชิงรุกเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 3 ผลัดๆ ละ 12 นาย ทำให้ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางน้ำมันเถื่อนจำนวน 400 ลิตรที่ผ่านด่านตรวจ อ.แว้ง เพื่อมุ่งหน้า อ.สุคิริน รวมทั้งที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหา พรก.ที่พยายามหลบหนีผ่านด่านลอยได้เป็นจำนวนหลายราย
ขณะที่ พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้สนธิกำลังตั้งด่านตรวจถาวรและด่านลอยจำนวนหลายจุดเช่นกัน โดยเน้นเส้นทางผ่านเข้าออกสู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมต่อการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งจุดตรวจน้ำตกที่เป็นจุดตรวจถาวรและจุดตรวจยุทธวิธีที่เป็นด่านลอย บริเวณหน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกและ 4 แยกโรงแรมแกรนด์ การ์เด้นท์ โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวมาเลย์
เนื่องจากทุกคนเล็งเห็นว่าเป็นการป้องปรามการเข้ามาก่อเหตุความรุนแรงของผู้ไม่หวังดีในย่านเศรษฐกิจการค้าของ อ.สุไหงโก-ลก และเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับการจัดงาน โก-ลก แกรนด์เซล ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์ซ้ำรอยเหมือนที่ 4 แยกโรงแรมเมอร์ลิน เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 ราย และส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจการค้า อ.สุไหงโก-ลกเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ตามแนวตะเข็บชายแดนตั้งแต่เขต อ.ตากใบจรด อ.สุคิริน จ.นราธิวาสที่รวมระยะทางกว่า 150 กม.เพื่อเป็นการสนองนโยบายของ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ต้องการสกัดกั้นการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายที่เป็นชนวนของการนำเงินไปสนับสนุนการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต.แบบยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและมาเลเซียได้จัดชุดเดินเท้าลาดตระเวนร่วมแนวชายแดนอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เนื่องจากล่าสุดหน่วยข่าวกรองของ 2 ประเทศได้รายงานถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่มีการขนย้ายวัตถุระเบิดจำนวนหลายลูกข้ามพรมแดนมายังฝั่งไทย เพื่อเตรียมใช้ก่อวินาศกรรมทำลายภาพลักษณ์และธุรกิจการค้าใน 3 จชต.ให้ซบเซามากยิ่งขึ้น
