เพลิงไหม้ห้องคุมระบบไฟโรงหนังที่ภูเก็ต โชคดีดับทัน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องควบคุมระบบไฟโรงหนังที่ภูเก็ต โชคดีเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ คาดในเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เหตุพนักงานเห็นควันไฟจากห้องควบคุม

เวลาประมาณ 19.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน ระดมกำลังเข้าดับเพลิงที่ห้องควบคุมระบบไฟฟ้าบริเวณชั้น 4 ของโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยม พาราไดส์ ภูเก็ต โดยที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับตลาดเกษตร หรือตลาดสดเทศบาล 2 โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่งการควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากห้องควบคุมไฟที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 4 อาคาร

อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โภชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายชัยพฤก พรรณพฤก รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่ออำนวยการการควบคุมเพลิงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้เจาะผนังอาคารเพื่อระบายน้ำ และควันออกจากตัวอาคาร เนื่องจากภายในอาคารเต็มไปด้วยควันไฟ และกลิ่นเหม็นควันไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยอำนวยความสะดวกในการทำงาน

นายมานะ อาจปักษา ผู้จัดการโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยม พาราไดส์ ภูเก็ต กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ต้นเพลิงเกิดจากห้องควบคุมระบบไฟฟ้าที่บริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องควบคุมระบบไฟของโรงหนังโรงที่ 5 และโรงที่ 6 ที่อยู่บริเวณชั้น 3

โดยขณะที่เกิดเหตุนั้นพนักงานเห็นควันไฟเกิดขึ้นบริเวณห้องควบคุมระบบ และได้ใช้ถังเคมีฉีดเพื่อควบคุม แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้จึงได้แจ้งให้ทางผู้จัดการทราบ และตัดไฟเฟส 2 ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีคนเข้าไปภายในโรงภาพยนตร์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่รออยู่ข้างนอก และมีบางส่วนที่กำลังซื้อตั๋ว จึงได้แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ให้คนออกจากบริเวณนั้นทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาอะไร

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ในเบื้องต้นพบว่ามีไฟไหม้เฉพาะห้องควบคุมระบบไฟเท่านั้น เชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นายมานะกล่าวว่า ช่วงนี้จะต้องปิดให้บริการชั่วคราว ซึ่งจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบความเสียหายอีกครั้งว่าจะต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมนานแค่ไหน ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้เพราะยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบภายใน