ตรัง - ตำรวจเมืองตรัง โชว์ฝีมือรวบแก๊งค้าตัวนิ่ม 111 ตัว หนัก 375 กก.มูลค่า 1.4 ล้านบาท เตรียมส่งขายร้านอาหารป่า จ.สตูล พร้อมเตรียมเรียกเจ้าของปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน มาสอบสวน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (21 ก.พ.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผบก.ภ.จว.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด สส.ภ.จว.ตรัง ร่วม นปพ.ภ.จว.ตรัง ชุดสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองตรัง และ สภ.บ้านหนองตรุด กว่า 20 นาย ร่วมกันจับกุม นายชล วงศ์ฝ่าย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 1 ต.แดนชุมพล อ.สอง จ.แพร่ พร้อมของกลางตัวนิ่ม จำนวน 36 ถุง รวม 111 ตัว น้ำหนัก 375 กก.มูลค่า 1.4 ล้านบาท บัญชีรายชื่อลูกค้า โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน บธ 7291 ตรัง ได้ที่บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 4 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผบก.ภ.จว.ตรัง เปิดเผยว่า การบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตัวนิ่มครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ด.ต.บุญฤทธิ์ นะวะกะ ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.บ้านหนองตรุด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า ที่บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 4 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง มีการลักลอบนำตัวนิ่ม ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มาเก็บซุกซ่อนอยู่ในโกดังเก็บของเพื่อรอส่งไปจำหน่ายต่อยังร้านอาหาร หลังรับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบว่า มีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน กำลังอยู่ในที่เกิดเหตุ และเมื่อเห็น ด.ต.บุญฤทธิ์ ก็ได้วิ่งหลบหนีเอาตัวรอด จึงสามารถจับกุม นายชล ส่วนที่เหลืออีก 2 คน หลบหนีไปได้ โดยจากการตรวจสอบพบตัวนิ่มอยู่ในถุงตาข่ายในรถเข็น จำนวน 8 ถุง ในโกงดังเก็บของ จำนวน 7 ถุง และจับได้อีก 21 ถุง รวม 36 ถุง ขณะกำลังลำเลียงขนไปเก็บในโกดัง
จากการสอบสวน นายชล ได้อ้างว่า เพิ่งมาอยู่ที่ จ.ตรัง ได้ประมาณ 5-6 วัน มีหน้าที่เฝ้าดูแลตัวนิ่มโดยได้รับค่าจ้างวันละ 100 บาท ส่วนตัวนิ่มมาจากที่ไหนและเอามาลงเมื่อไหร่นั้น ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา ว่า ร่วมกันครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับตัวนิ่มที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้นั้น ราคาซื้อขายอยู่ที่ กก.ละ 3,500 บาท ซึ่งในจำนวนนั้นมีตัวนิ่มที่มีน้ำหนักมากที่สุดตัวละ 10 กก.อยู่ 1 ตัว ราคาประมาณ 35,000 บาท และตายไปแล้ว 1 ตัว ซึ่งตัวนิ่มพวกนี้จะทยอยส่งไปจำหน่ายยังร้านขายอาหารป่า ในพื้นที่ จ.สตูล ระหว่างวันที่ 8 ก.พ.-20 ก.พ.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายชัยวัฒน์ ท่าจีน เจ้าของปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.ตรัง-สิเกา โดยมี นางฐปนัท ธนูบัณฑิตย์สกุล เป็นผู้ดูแลสวน และบ้านเช่า และมี นายวิโรจน์ เลือดทหาร เป็นผู้เช่า ทั้งนี้ บ้านหลังดังกล่าวเดิมได้เปิดเป็นร้านอาหารชื่อครัวธรรมชาติ ในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ อยู่ห่างจากริมถนนใหญ่ลึกเข้ามาข้างในประมาณ 3 กม.และต่อมาเจ้าของเดิมได้ย้ายร้านอาหารไปตั้งยังที่แห่งใหม่ และได้เปิดให้เช่าเมื่อตอนปลายปี 2554 แต่ไม่มีคนมาอยู่
กระทั่งต่อมา นายวิโรจน์ จึงได้มาเช่าเพื่อเก็บตัวนิ่มแทน เนื่องจากเห็นว่าสภาพพื้นที่ที่อยู่ห่างจากริมถนนใหญ่ จึงปลอดคนและไม่มีคนนอกเข้ามาเพ่นพ่าน ส่วน นายชัยวัฒน์ ขณะนี้ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกมาสอบสวนว่า มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการค้าตัวนิ่มด้วยหรือไม่ ซึ่งจะได้มีการขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป