ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อสังหาฯ ภูเก็ตรุ่งทุนส่วนกลางพาเหรดลง โดยเฉพาะโครงการบ้านระดับกลาง-คอนโดฯ ที่โตแบบก้าวกระโดด เผยปี 55 คาดทุนส่วนกลางขนเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนบ้างแต่ยังไม่มากเท่าที่ควร
นายธนันท์ ตันฑ์ไพบูลย์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์และการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนจากส่วนกลางและต่างประเทศว่า สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่จังหวัดภูเก็ตถือว่า ปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่ดีมาโดยตลาด โดยเฉพาะตลาดรัสเซียที่ขณะนี้เดินทางเข้ามาจำนวนมาก และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เริ่มที่จะหาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง รวมทั้งเริ่มที่จะเลือกลงทุนแล้วเช่นกัน
“เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามามาก การลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ก็จะโตตามไปด้วย ตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับบน แต่ถ้าเป็นระดับบนมากๆ ตลาดในปีนี้ชะลอตัว เนื่องจากกลุ่มที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในราคาหลายสิบล้านบาท จะเป็นกลุ่มตลาดยุโรปมากกว่า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนักลงทุนจากส่วนกลางที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถือว่าในส่วนของกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาทุนยังมีจำนวนน้อยอยู่มาก”
เนื่องจากขณะนี้ภูเก็ตมีนักลงทุนจากส่วนกลางเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้ง แสนสิริ พฤกษา วิลเลจ และอื่นๆ อีกหลายโครงการ เชื่อว่าปีนี้จะมีมูลค่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทุนจากส่วนกลางไม่น้อยกว่า 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1-2 เท่าตัว โดยปีที่ผ่านมามีทุนจากส่วนกลางเข้ามาลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ตประมาณ 10,000 ล้านต้นๆ
สำหรับในปีนี้การแข่งขันทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในระดับกลางถือว่าร้อนแรงมากโดยเฉพาะบ้านแถว หรือคอนโดที่ราคาประมาณ 8-9 แสนบาท เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้มีความต้องการสูงมาก
นายธนันท์กล่าวต่อไปว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยมและโตแบบก้าวกระโดดในขณะนี้ คือ ตลาดคอนโด ที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 28-30 ตารางเมตร ราคา 8-9 แสนบาท เนื่องจากเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ ทั้งที่ซื้อเก็งกำไร ซื้อให้เช่า และซื้ออยู่เอง เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคาค่าเช่าบ้านกับค่าผ่อนไม่ต่างกัน ทำให้คนที่เข้ามาทำงานในภูเก็ตเลือกที่จะซื้อมากกว่าที่จะเช่า ประกอบกับราคาที่ไม่สูงมากนักทำให้ตลาดนี้โตเร็วมาก
“สำหรับพื้นที่ที่นักลงทุนเลือกลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในขณะนี้ คือ พื้นที่บริเวณเทศบาลตำบลกะทู้ อ.กะทู้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างพบว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลกะทู้ มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างมากที่สุด ส่วนการลงทุนของชาวต่างชาตินั้นพบว่ามีการเลือกลงทุนทางพื้นที่ตอนเหนือของเกาะมากกว่า”
นายธนันท์ยังกล่าวต่อไปว่า แนวโน้มการลงทุนของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่าผู้ประกอบการเลือกที่จะลงทุนในแนวดิ่งมากกว่าแนวราบ เนื่องจากการลงทุนในแนวราบนั้นจะต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก แต่ปัจจุบันที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีราคาสูงมากเริ่มต้นไร่ละไม่ต่ำกว่า 15-20 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลงทุนในแนวดิ่งแทนเพราะเป็นการสร้างให้สูงขึ้นไปและเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกัน ซึ่งแตกต่างกับการก่อสร้างในแนวราบที่ต้องต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก
