ตรัง - ญาติสาวตายทั้งกลมไม่พอใจหลังผลตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุหมอทำคลอด รพ.ตรัง ไม่ผิด สุดทนทำป้ายไวนิลติดรถยนต์แห่ประจานพฤติกรรมรอบเมือง พี่สาวเชื่อมีเบื้องหลัง เตรียมยื่นหนังสือ รมว.สาธารณสุข เร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสายพิณ ปราบรัตน์ อายุ 47 ปี พี่สาวของนางสุภิญญา ผลชอบ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ประมาณ 10 คน ได้นำรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บฉ-9214 ตรัง ติดป้ายไวนิลที่มีข้อความว่า “อาลัย 100 วัน ตายทั้งกลม ที่ รพ.ตรัง ฝากพิเศษคลินิก ผลสอบอึมครึม” ตระเวนขับไปรอบเมือง เพื่อประจานพฤติกรรมของแพทย์ห้องคลอด โรงพยาบาลตรัง โดยเริ่มจากบริเวณหน้าศาลากลาง จ.ตรัง หลังใหม่ ไปยังถนนเจิมปัญญา ก่อนไปหยุดที่หน้าโรงพยาบาลตรัง และที่หน้าคลินิก นพ.โอภาส ปทะวานิช แพทย์เจ้าของไข้ เนื่องจากไม่พอใจผลสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสำนักงานสาธารณสุข จ.ตรัง ที่สรุปว่าบุคลากรและทีมแพทย์ที่ทำคลอดไม่มีความผิด ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกรณีที่นางสุภิญญา ผลชอบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 6 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ได้เสียชีวิตพร้อมบุตรในท้อง ขณะที่เข้ารับการคลอดด้วยอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ ที่โรงพยาบาลตรัง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.54 ที่ผ่านมา โดยญาติระบุว่า นพ.โอภาส แพทย์เจ้าของไข้ไม่สนใจทำคลอดให้ จนนำไปสู่การเรียกร้องขอความเป็นธรรม กระทั่งต่อมาได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดที่มี นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ตรัง เป็นประธานขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง และต่อมาได้มีข้อสรุปว่าคนไข้เสียชีวิตจากภาวะน้ำคร่ำอุดหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน ขณะที่บุคคลลากรของห้องคลอด และทีมแพทย์ไม่มีมูลความผิด
นางสายพิณ ปราบรัตน์ อายุ 47 ปี พี่สาวของนางสุภิญญากล่าวว่า หลังทราบผลสอบข้อเท็จจริงที่สรุปว่าแพทย์ไม่มีความผิดนั้น ตนและญาติพี่น้องก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแล้ว ยังขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ในวันดังกล่าว น้องสาวตนเจ็บท้องและมีน้ำเดิน จึงให้เจ้าหน้าที่โทรตาม นพ.โอภาส ปทะวานิช เพราะน้องสาวได้ฝากครรภ์พิเศษ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา จนน้องสาวทนเจ็บท้องไม่ไหว เอ่ยปากให้หมอผ่าตัดทำคลอดหลายรอบ แต่ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหมอ
จนกระทั่งเวลา 09.00 น.วันที่ 11 พ.ย.54 แพทย์เจ้าของไข้ก็ขึ้นมาดูอาการ และยังคงบอกว่าปากมดลูกเปิด 1 ซม.จึงฉีดยาเร่งคลอด ทำให้น้องสาวเจ็บท้องมากขึ้น ญาติก็เรียกเจ้าหน้าที่ตลอด พยาบาลจึงบอกว่าปากมดลูกเปิด 3 ซม.แต่ยังคลอดไม่ได้ ตนจึงรบเร้าที่จะพบหมอเจ้าของไข้ แต่ก็ได้คำตอบว่าหมอติดทำคลอดอยู่ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง น้องสาวเกิดอาการช็อก เจ้าหน้าที่จึงไปตามหมอมาดูและได้นำตัวไปห้องฉุกเฉิน และต่อมาหมอก็บอกว่าน้องสาวสามารถคลอดได้เพราะปากมดลูกเปิด 9 ซม.แล้ว จึงเข็นเข้าห้องคลอดและหายไปนาน กระทั่งเด็กในครรภ์เสียชีวิต และน้องสาวตนก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วย
สำหรับผลสอบที่ออกมานั้น คณะกรรมการที่สอบข้อเท็จจริงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็เป็นเรื่องปกติที่หมอเจ้าของไข้จะพูดอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตนพ้นผิด จึงทำให้ผลสอบที่ออกมาขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นไปตามที่ตนคาดการณ์ไว้ไม่ผิดว่าผลสอบต้องออกมาเช่นนี้ จึงทำให้เรื่องดังกล่าวยังหาผู้ที่ออกมารับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้น หลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ รมว.สาธารณสุข เพราะไม่มีที่พึ่งใดแล้ว เพื่อเรียกร้องให้มีการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของรัฐ พร้อมทั้งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ เพื่อหาผู้ที่รับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คนผิดลอยนวลเช่นนี้
ขณะเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุ นพ.โอภาส และทีมแพทย์ก็ไม่ได้ออกมาขอโทษกับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ นพ.โอภาสออกมาแสดงความรับผิดชอบ และตระหนักถึงชีวิตคนไข้ให้มากกว่านี้ เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ฝากอยู่ในมือให้หมอดูแล ส่วนความคืบหน้าของคดีที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านั้น นางสายพิณระบุว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง กำลังอยู่ในช่วงระหว่างเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวน
