ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ติดตามการดำเนินงานและสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา พร้อมเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ก่อเหตุรุนแรงและญาติ เพื่อรับทราบการดำเนินการตามมาตรา 21
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจสงขลา อ.เทพา จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานและสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ 4 อำเภอ หลังจากทางจังหวัดสงขลาประกาศใช้มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน พ.ศ. 2550 เพื่อให้ผู้ที่หลงผิดกลับสู่ภูมิลำเนาด้วยความยุติธรรม โดยมี พล.ต.ธฤทธิ์ สุนทร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำเภอ ทหารและตำรวจในพื้นที่ 4 อำเภอ เข้าร่วมประชุมในวันนี้
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่มีหมาย ป.วิอาญา (กลุ่ม A) จำนวน 31 คน และแนวร่วมซึ่งไม่มีหมาย 297 คน มีพื้นที่รุนแรง ซึ่งอยู่ในการเฝ้าระวัง จำนวน 5 หมู่บ้าน(เกาะแลหนัง, ควนหรัน, ห้วยบอน, แกแดะและโคกสิเหรง) ซึ่งได้จัดเป็นหมู่บ้านพัฒนาสันติ จากการปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือกับ ฝ่ายปกครอง ในการดูแลรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน โดยจัดตั้งเป็นชุดคุ้มครองหมู่บ้าน(ชคบ.) สามารถปฏิบัติงานได้เป็นผลดีเป็นที่ประจักษ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุดคุ้มครองหมู่บ้านเกาะแลหนัง ซึ่งได้เข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ในเหตุการณ์ถูกลอบโจมตีจากผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ฝ่ายทหารมีแนวคิดที่จะส่งคืนพื้นที่ที่ไม่มีเหตุการณ์ (สีเขียว) ให้กับฝ่ายปกครองหรือกำลังฝ่ายพลเรือนรับผิดชอบโดยฝ่ายทหารเป็นพี่เลี้ยง และเสริมสร้างกำลังประชาชนให้มีความเข้มแข็ง โดยได้จัดตั้งเป็น ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ซึ่งจัดตั้งแล้ว 2 หมู่บ้านคือบ้านเกาะแลหนัง และบ้านห้วยบอน คงอยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 หมู่บ้าน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ นาทวี เทพา และ อ.สะบ้าย้อย หลังจากที่ทางจังหวัดสงขลาได้ประกาศใช้มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน พ.ศ. 2550 เพื่อให้ผู้ที่หลงผิด กระทำผิดเข้ามอบตัวกับทางราชการแล้วจะได้รับการยกเว้นโทษ ในวันนี้เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทางจังหวัดสงขลาจึงได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงของจังหวัดเพื่อให้ผู้ที่กระทำผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบการเข้าสู่ขั้นตอนตามมาตรา 21