ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.ภาค 9 โชว์ผลงาน ระดมกำลังตำรวจ 3 สภ.ริมพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ร่วมกันปราบปราบกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อน ยึดรถยนต์ของกลาง 8 คัน ผู้ต้องหา 9 คน พร้อมน้ำเถื่อนทั้งเบนซิน-ดีเซล กว่า 2,000 ลิตร
วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา แถลงผลการปราบปรามกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย หลังจากที่กำลังตำรวจทั้ง 3 สถานีในพื้นที่รอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง สภ.ปาดังเบซาร์ สภ.สะเดา และ สภ.คลองแงะ ได้ระดมกวาดล้างและจับกุมตามมาตรการของตำรวจภูธรภาค9 หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถกระบะขนน้ำมันเถื่อนชนกับรถพ่วงจนเกิดไฟลุกไหม้ลุกลามไปติดบ้านเรือนประชาชน 6 หลังเมื่อวานนี้
โดยเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถกระบะและรถเก๋งดัดแปลงบรรทุกน้ำมันเถื่อนได้ 8 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถสัญชาติมาเลเซีย 2 คัน จับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน และยึดน้ำมันเถื่อนทั้งเบนซิน และดีเซลกว่า 2,000 ลิตร ขณะพยายามลักลอบขนออกมาจากประเทศมาเลเซีย และตระเวนส่งตามคอกน้ำมันเถื่อนและปั้มหลอดแก้วในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง
พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ทางตำรวจภูธรภาค 9 เร่งกวาดล้างน้ำมันเถื่อน ทั้งนี้ เป็นโยบายเร่งด่วนเนื่องจากมีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนเพิ่มขึ้น โดยหลังจากนี้จะมีการระดมกวาดล้างเป็นช่วงๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับสาเหตุที่น้ำมันเถื่อนทะลักเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากในขณะนี้และมีกลุ่มผู้ค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนต่างของราคาถูกกว่าน้ำมันของไทยมาก โดยน้ำมันเบนซินรับมาลิตรละ 23 บาท ขายต่อ 30 บาท ส่วนดีเซลรับมาลิตรละ 22 บาท ขายต่อ 28 บาท จึงเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถโดยเฉพาะในกลุ่มของรถโดยสาร