นราธิวาส - ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ตรวจยึดไม้พะยูงแปรรูปกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ขณะกำลังลำเลียงข้ามฝั่งไปประเทศมาเลเซีย หลบเลี่ยงเส้นทางเดิมที่มีการจับกุมหนัก โดยมีปลายทางที่ประเทศจีน
วันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.อ.จักรพร แท่นทอง ผู้กำกับการ สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปราโมทย์ แก้วขาว สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ร่วมกันแถลงข่าวว่า ช่วงเวลา 02.00 น.คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วย ด.ต.พิเชษฐ์ เพชรเรือนทอง หัวหน้าสายตรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้สุไหงปาดี นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นจับกุมการลักลอบจำหน่ายไม้พยุงข้ามชาติบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก หน้าสำนักงานขนส่ง อ.สุไหงโก-ลก ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
โดยขณะเข้าจับกลุ่มพบมีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน กำลังลำเลียงไม้พะยูงแปรรูปขึ้นเรือ เพื่อขนส่งข้ามฝั่งไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ผู้ต้องหาอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดรถสิบล้อพร้อมไม้พยุงกว่า 200 ท่อน ที่อำพรางไว้ด้วยกระสอบข้าวสาร โดยภายในรถพบป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 8 แผ่น พาสปอร์ต ทะเบียนบ้าน และหลักฐานการครอบครองรถของ นายบุญเชิด โขงจันทึก อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 ม.10 ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป
พ.ต.อ.จักรพร กล่าวว่า ไม้พะยูงที่จับกุมได้ในครั้งนี้คาดว่าจะนำมาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยนับเป็นคดีแรกที่สามารถจับกุมได้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้เชื่อว่าผลจากการกดดันอย่างหนักตามนโยบายรัฐบาล ทำให้กลุ่มผู้ค้าไม้พะยูงต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางลำเลียงผ่าน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อส่งออกไปทางประเทศมาเลเซีย และมีแผนจะส่งต่อไปยังประเทศจีนอีกทอดหนึ่ง เพราะที่นั่นมีความต้องการไม้พยุงเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้หากเป็นการจำหน่ายภายในประเทศจะมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่เมื่อสามารถลักลอบออกไปจำหน่ายในประเทศที่ 3 ราคาจะปรับสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้กลุ่มผู้ค้าไม้พะยูงยังคงใช้ความพยายามที่จะลักลอบนำออกไปจำหน่าย โดยคาดว่าต่อไปจะยังคงมีการใช้พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และพื้นที่ตามแนวชายแดนของ จ.นราธิวาส ในการลำเลียงไม้พะยูงออกไปอีก จึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำการติดตามข่าวและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ส่วนไม้พะยูงที่ยึดได้จะนำไปเก็บไว้ ณ สำนักงานหน่วยป่าไม้สุไหงปาดี
