ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ท่าอากาศยานหาดใหญ่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น หลังเกิดเหตุระเบิดใน กทม. ยันอุปกรณ์ตรวจสอบได้มาตรฐาน ดึงตร. ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมผนึกกำลังตรวจสอบป้องกันเหตุร้าย
วานนี้ (15 ก.พ.) น.อ.นรนิติ์ ผลกานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานหาดใหญ่ว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการใหญ่ การท่าอากาศยานได้แจ้งเตือนมายังทางท่าอากาศยานภูมิภาคต่างๆ เรื่องการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่ของท่าอากาศยานให้เข้มงวดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานต่างๆ
"โดยปกติท่าอากาศยานหาดใหญ่ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตรวจเข้มการเข้า-ออก ทั้งตัวทางเข้าพื้นที่ท่าอากาศยาน และการเข้า-ออกตัวอาคารที่พักผู้โดยสาร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจค้นที่มาตรฐานอยู่แล้ว ทั้งเครื่องตรวจโลหะ เครื่องเอ็กซ์เรย์ และกล้องวงจรปิดครอบคลุมทั้งพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในกรุงเทพฯ ทางเราก็ได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัย โดยให้เจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ เพื่อการเฝ้าระวังสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น" น.อ.นรนิติ์ กล่าว
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ กล่าวอีกว่า นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.ของท่าอากาศยานเองแล้ว เรายังได้รับความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางทหารเข้ามาช่วยในการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและตรวจสอบระเบิด มีเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีของทหารอากาศ เข้ามาช่วยตรวจสอบและตรวจค้นในจุดตรวจต่างๆ ของท่าอากาศยานร่วมกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางท่าอากาศยาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหน่วยก็ได้ช่วยเหลือในการแจ้งเตือนข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ให้กับทางท่าอากาศยานหาดใหญ่อยู่อย่างต่อเนื่อง
“ในส่วนของผู้โดยสารนั้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัย ดำเนินการตรวจค้นและรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น แต่ไม่ให้ผู้โดยสารรู้สึกผิดสังเกตจนสร้างความอึดอัดแก่ผู้โดยสาร ส่วนเที่ยวบินต่างประเทศที่ขึ้นลงที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีเพียง 2 ไฟลท์ คือ สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้โดยสารในพื้นที่ที่ใช้บริการ จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก” น.อ.นรนิติ์ ทิ้งท้าย
วานนี้ (15 ก.พ.) น.อ.นรนิติ์ ผลกานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานหาดใหญ่ว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการใหญ่ การท่าอากาศยานได้แจ้งเตือนมายังทางท่าอากาศยานภูมิภาคต่างๆ เรื่องการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่ของท่าอากาศยานให้เข้มงวดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานต่างๆ
"โดยปกติท่าอากาศยานหาดใหญ่ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตรวจเข้มการเข้า-ออก ทั้งตัวทางเข้าพื้นที่ท่าอากาศยาน และการเข้า-ออกตัวอาคารที่พักผู้โดยสาร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจค้นที่มาตรฐานอยู่แล้ว ทั้งเครื่องตรวจโลหะ เครื่องเอ็กซ์เรย์ และกล้องวงจรปิดครอบคลุมทั้งพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในกรุงเทพฯ ทางเราก็ได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัย โดยให้เจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ เพื่อการเฝ้าระวังสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น" น.อ.นรนิติ์ กล่าว
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ กล่าวอีกว่า นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.ของท่าอากาศยานเองแล้ว เรายังได้รับความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางทหารเข้ามาช่วยในการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและตรวจสอบระเบิด มีเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีของทหารอากาศ เข้ามาช่วยตรวจสอบและตรวจค้นในจุดตรวจต่างๆ ของท่าอากาศยานร่วมกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางท่าอากาศยาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหน่วยก็ได้ช่วยเหลือในการแจ้งเตือนข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ให้กับทางท่าอากาศยานหาดใหญ่อยู่อย่างต่อเนื่อง
“ในส่วนของผู้โดยสารนั้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัย ดำเนินการตรวจค้นและรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น แต่ไม่ให้ผู้โดยสารรู้สึกผิดสังเกตจนสร้างความอึดอัดแก่ผู้โดยสาร ส่วนเที่ยวบินต่างประเทศที่ขึ้นลงที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีเพียง 2 ไฟลท์ คือ สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้โดยสารในพื้นที่ที่ใช้บริการ จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก” น.อ.นรนิติ์ ทิ้งท้าย